การกระทรวงคมนาคม แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง จากอุบัติเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว ถ.พระราม 2

การกระทรวงคมนาคม แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง จากอุบัติเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว ถ.พระราม 2

          การกระทรวงคมนาคม แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง จากอุบัติเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 04.00 น. โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย, สูญหาย 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 11 ราย  พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายใน 15 วัน และให้ดำเนินมาตรการเผชิญเหตุอย่างเร่งด่วน เช่น การช่วยเหลือคนงานที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ และตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเปิดการจราจร นอกจากนี้ยังมีการกำชับให้ผู้รับเหมามีผู้จัดการด้านความปลอดภัย และการตรวจสอบร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐและผู้รับเหมา รวมถึงเร่งรัดการใช้ระบบมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย เช่น ISO และอาจพิจารณานำผู้รับเหมาชั้นพิเศษมาใช้ในงานที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด


 

 

          “สุริยะ” แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมบินด่วนหลังประชุม ครม.สัญจร ลงพื้นที่เกิดเหตุคานสะพานก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ทรุดตัว เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ – สูญหาย – เสียชีวิต สั่ง ทล. เยียวยาเต็มที่ ลุยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มอบหมายดำเนินมาตรการเผชิญเหตุ เร่งหารือกรมบัญชีกลางใช้สมุดพกคาดโทษผู้รับเหมา ลั่น! ห้ามเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก คำนึงความปลอดภัยในระดับสูงสุด


          นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว บนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ช่องทางหลัก กม. ที่ 21+100 ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย ผู้สูญหาย จำนวน 3 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 11 ราย นั้น ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้หายเจ็บป่วยโดยเร็ว พร้อมทั้ง ได้สั่งการไปยังนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เยียวยาต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ เวลาประมาณ 17.30 น. ตนจะลงพื้นที่ที่เกิดเหตุโดยด่วนด้วย


          ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ ทล. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหาข้อสรุปภายใน 15 วัน พร้อมทั้งดำเนินมาตรการตามมิติขณะเผชิญเหตุ โดยให้ตรวจสอบช่วยเหลือคนงานผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุอย่างเต็มที่ อีกทั้งกำกับการควบคุมการรื้อย้ายโครงสร้างและเครื่องจักรที่เสียหายโดยวุฒิวิศวกรเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นอีก รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยให้มั่นใจก่อนเปิดการจราจรด้วย


          นอกจากนี้ ได้กำชับให้เพิ่มมาตรการการตรวจสอบการทำงานของผู้รับจ้างที่ต้องมีผู้จัดการด้านความปลอดภัย (Safety Manager) ของทั้งผู้รับจ้างและหน่วยงานรัฐ อาทิ ทล. ทำการตรวจสอบร่วมกันก่อนที่จะอนุญาตให้ยกหรือถอดโครงสร้างชั่วคราวที่รับน้ำหนัก รวมทั้งเร่งรัดกรมบัญชีกลางให้นำมาตรการสมุดพกผู้รับเหมามาใช้ตรวจสอบผู้รับเหมา และจะพิจารณานำระบบมาตรฐานสากล เช่น ISO ด้านความปลอดภัยมาใช้ควบคุม อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นอาจต้องยกระดับชั้นผู้รับเหมาชั้นที่เหนือชั้นพิเศษมาใช้ เพื่อทำงานยากและมีการทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อสาธารณชน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในระดับสูงสุด

 


 

ที่มา : https://citly.me/ByK1g