กรมทางหลวงชนบท บำรุงถนนสาย ปท.3033 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เสร็จสมบูรณ์ และเปิดใช้เรียบร้อยแล้ว

กรมทางหลวงชนบท บำรุงถนนสาย ปท.3033 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เสร็จสมบูรณ์ และเปิดใช้เรียบร้อยแล้ว

          กรมทางหลวงชนบท ดำเนินโครงการบำรุงถนนทางหลวงชนบทสาย ปท.3033 ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างถนน ทล.305 (รังสิต – นครนายก) กับบ้านหนองหมู อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ไปจนถึงถนนทางหลวงชนบทสาย สบ.5052 อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ระยะทางรวม 4.915 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการสัญจร และรองรับการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับประชาชน เนื่องจากถนนสายดังกล่าวมีการเสื่อมสภาพจากการใช้งานระยะยาวและการจราจรที่เพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ และเปิดใช้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยรองรับปริมาณการจราจรในอนาคต และเชื่อมต่อการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ และการขนส่งสินค้า พืชผลทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


 

 

          นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ถนนทางหลวงชนบทสาย ปท.3033 แยก ทล.305 – บ้านหนองหมู อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นสายทางที่เริ่มต้นตั้งแต่ถนน ทล.305 (รังสิต – นครนายก) เลียบคลอง 14 ไปบรรจบกับถนนทางหลวงชนบทสาย สบ.5052 อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญที่ประชาชนใช้ในการสัญจร สนับสนุนการลำเลียงผลผลิตทางเกษตรในพื้นที่ และเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญ โดยกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ให้ความสำคัญกับการคมนาคมในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้ดำเนินโครงการบำรุงถนนทางหลวงชนบทสาย ปท.3033 ระยะทางกว่า 4.915 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพให้การสัญจรมีความคล่องตัว และสร้างความมั่นใจในเรื่องความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน


          อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากโครงสร้างถนนสายนี้มีการเสื่อมสภาพจากการใช้งานเป็นระยะเวลานาน และปริมาณการจราจรที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเหตุอุทกภัย ส่งผลให้โครงสร้างชั้นทางได้รับความเสียหาย ทช. จึงได้ดำเนินการซ่อมบำรุงผิวจราจร โดยดำเนินการขุดกัดผิวทางและขุดซ่อมโครงสร้างเดิม (DEEP PATCH) พร้อมทั้งขุดกัดผิวทางเดิม พื้นทาง และไหล่ทางเดิม โดยวิธี Pavement In – Place Recycling แล้วจึงดำเนินการปูผิวแอสฟัลต์ติกคอนกรีตกว้าง 8 เมตร พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ปุ่มสะท้อนแสง และตีเส้นจราจรด้วยสีเทอร์โมพลาสติก ตีเส้นชะลอความเร็วทั้ง 2 ทิศทาง บริเวณแยกหน้าโรงเรียนแสนจำหน่ายวิทยา เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ช่วง กม.ที่ 17+885 ถึง กม.ที่ 22+800 โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 29.950 ล้านบาท


          ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ และเปิดใช้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงมั่นคงของผิวจราจร รองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต รวมถึงเชื่อมต่อการเดินทางสู่ถนนสายหลักและสถานที่สำคัญในพื้นที่ เช่น วัด โรงเรียน รวมถึงการขนส่งสินค้าและพืชผลทางการเกษตรได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย


 

ที่มา : https://citly.me/su3no