กรมทรัพยากรธรณี เตือนภาคใต้ เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก ในระยะนี้
กรมทรัพยากรธรณี เตือนเฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากถึงวันที่ 17 ธ.ค. 67 จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง ระนอง สงขลา พัทลุง ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เนื่องจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำที่จะเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 100 มม. ทำให้ชั้นดินอุ้มน้ำไว้มากอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้
(12 ธ.ค. 67) เวลา 13.00 น. กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 12-17 ธันวาคม 2567 จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่
- ชุมพร : เมืองชุมพร ท่าแซะ ปะทิว หลังสวน ละแม พะโต๊ะ สวี ทุ่งตะโก
- สุราษฎร์ธานี : กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะสมุย เกาะพะงัน ท่าชนะ ไชยา คีรีรัฐนิคม บ้านตาขุน พนม ท่าฉาง บ้านนาสาร วิภาวดี
- นครศรีธรรมราช : ท่าศาลา สิชล ขนอม พรหมคีรี ลานสกา นบพิตำ พิปูน ร่อนพิบูลย์ ช้างกลาง นาบอน ทุ่งสง ฉวาง ทุ่งใหญ่
- ตรัง : เมืองตรัง ห้วยยอด ย่านตาขาว นาโยง ปะเหลียน
- ระนอง : เมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์
- สงขลา : เมืองสงขลา สะบ้าย้อย คลองหอยโข่ง จะนะ เทพา นาทวีนาหม่อม รัตภูมิ สะเดา หาดใหญ่กระแสสินธุ์
- พัทลุง : กงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีบรรพต ป่าพะยอม ศรีนครินทร์
- ยะลา : เมืองยะลา ธารโต บันนังสตา รามัน กรงปินัง ยะหา เบตง
- ปัตตานี : กะพ้อ ทุ่งยางแดง มายอ ยะรัง โคกโพธิ์ ปานาเระ สายบุรี
- นราธิวาส : เมืองนราธิวาส จะแนะ ศรีสาคร สุคิริน เจาะไอร้อง บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ แว้ง
เนื่องจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำที่จะเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 100 มม. ทำให้ชั้นดินอุ้มน้ำไว้มากอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้
ทั้งนี้ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณีเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่องหากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์แผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ
(12 ธ.ค. 67) เวลา 23.00 น. สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) รายงานข้อมูลฝนสะสม 24 ชั่วโมง จ.นครศรีธรรมราช มีฝนตกหนักมาก (มากกว่า 90 มม.) กระจายตัวเพิ่มขึ้น บริเวณ อ.ขนอม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา เมืองฯ ร่อนพิบูลย์ เชียรใหญ่ ส่วน จ.ชุมพรเริ่มมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ อ.เมืองฯ สวี ทุ่งตะโก และ จ.สุราษฎร์ธานี มีฝนตกหนัก บริเวณ อ.ดอนสัก กาญจนดิษฐ์ โดยมีปริมาณฝนตกหนักมาก ดังนี้
- จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช 143 มม. เชียรใหญ่ 137 มม. ท่าศาลา 132 มม.
ร่อนพิบูลย์ 126 มม. ลานสกา 123 มม. ขนอม 161 มม. พรหมคีรี 117 มม. สิชล 137 มม. นบพิตำ 112 มม.ชะอวด 94 มม.) - จ.สุราษฎร์ธานี (อ.ดอนสัก 105 มม.)
- จ.ชุมพร (อ.เมืองชุมพร 108 มม.)
จากติดตามการเคลื่อนตัวของกลุ่มฝนผ่านเรดาร์ยังคงมีกลุ่มฝนปกคลุมพื้นที่ จ.ชุมพร (บริเวณ อ.ปะทิว ท่าแซะ เมืองฯ สวี หลังสวน) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.ไชยา ท่าฉาง ท่าชนะ พุนพิน เมือง บ้านนาสาร กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะสมุย) จ.นครศรีธรรมราช (อ.ขนอม สิชล พิปูน นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ชะอวด เมืองฯ ปากพนัง เชียรใหญ่ ทุ่งสง ช้างกลาง) จ.พัทลุง (อ.ป่าพยอม ควนขนุน) จ.ตรัง (อ.รัษฎา ห้วยยอด) จ.สงขลา (อ.ระโนด สิงหนคร) จ.ระนอง (อ.กระบุรี ละอุ่น) รวมทั้งพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ (จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)
ทั้งนี้ ในหลายพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช ตามแนวเทือกเขานครศรีธรรมราช มีฝนตกหนักมาก และยังมีกลุ่มฝนเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมอย่างต่อเนื่อง ขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
(13 ธ.ค. 67) เวลา 05.00 น. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับในช่วงวันที่ 13-15 ธ.ค. 67 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้
- วันที่ 13 ธันวาคม 2567
- ภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
- วันที่ 14 ธันวาคม 2567
- ภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ และตรัง
- วันที่ 15-16 ธันวาคม 2567
- ภาคใต้: จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว
สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
(13 ธ.ค. 67) เวลา 06.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 1 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 5 อำเภอ 13 ตำบล 52 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,805 ครัวเรือน
ปภ. ตรวจสอบจุดเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง เตรียมพร้อมรับมือ
(12 ธ.ค. 67) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปภ.ได้ติดตามสภาพอากาศพบว่ากลุ่มเมฆฝนปานกลางถึงหนักบริเวณภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และปัตตานี มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงได้แจ้งจังหวัดและศูนย์ ปภ.เขต ให้ตรวจความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมสำหรับออกช่วยเหลือประชาชน และให้ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยของจังหวัด และตรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากบริเวณน้ำตกปาโจ อ.บาเจาะ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่มาจากเทือกเขาบูโด หากเกิดน้ำป่าไหลหลากจะได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่เชิงเขาเตรียมตัวรับมืออพยพ
ขณะที่บ้านบาเฆะ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส ประสบปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งทาง อบต.โคกเคียน ได้ก่อสร้างแนวคันหินกันคลื่นกัดเซาะความยาว 5 กิโลเมตร แต่บางจุดน้ำทะเลยังสามารถเซาะเข้ามาได้ รวมไปถึงบริเวณปากแม่น้ำบางนราที่จะระบายน้ำลงสู่ทะเลซึ่งมีระดับน้ำเกือบเท่าตลิ่ง จึงเป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงนี้
ที่มา : t.ly/aZlJ3