คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัด มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2568

คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัด มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2568

       คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติในการประชุมครั้งที่ 11/2567 เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2568 โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัด เพิ่มในอัตราวันละ 7-55 บาท (เฉลี่ยร้อยละ 2.9) แบ่งเป็น 17 อัตรา มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป


 

      (23 ธ.ค.2567) คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติในการประชุมครั้งที่ 11/2567 เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2568 โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มในอัตราวันละ 7-55 บาท (เฉลี่ยร้อยละ 2.9) แบ่งเป็น 17 อัตรา พิจารณาจากค่าครองชีพและโครงสร้างทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

  • กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นตำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ จ.ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
  • กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 380 บาท ใน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
  • กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นอัตราวันละ 372 บาท ในเขตท้องที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 6 จังหวัด (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5)
  • กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 67 จังหวัดที่เหลือ ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0

     
      ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

  1. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 4 จังหวัด 1 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต (370) ฉะเชิงเทรา (350) ชลบุรี (361) ระยอง (361) เฉพาะอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (345)
  2. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 380 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 2 อำเภอ ได้แก่ เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ (350) และเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (345)
  3. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 372 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (363) จังหวัดนครปฐม (363) นนทบุรี (363) ปทุมธานี (363) สมุทรปราการ (363) และสมุทรสาคร (363)
  4. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 359 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 1 จังหวัด คือ จังหวัดนครราชสีมา (352)
  5. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 358 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 1 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรสงคราม (351)
  6. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 357 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น (350) เชียงใหม่ ยกเว้นอำเภอเมืองเชียงใหม่ (350) ปราจีนบุรี (350) พระนครศรีอยุธยา (350) และสระบุรี (350)
  7. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 356 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 1 จังหวัด คือ จังหวัดลพบุรี (349)
  8. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 355 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครนายก (348) สุพรรณบุรี (348) และหนองคาย (348)
  9. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 354 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ (347) และตราด (347)
  10. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 352 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (345) จันทบุรี (345) เชียงราย (345) ตาก (345) นครพนม (345) บุรีรัมย์ (345) ประจวบคีรีขันธ์ (345) พังงา (345) พิษณุโลก (345) มุกดาหาร (345) สกลนคร (345) สงขลา ยกเว้นอำเภอหาดใหญ่ (345) สระแก้ว (345) สุราษฎร์ธานี ยกเว้นอำเภอเกาะสมุย (345) และอุบลราชธานี (345)
  11. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 351 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร (344) เพชรบุรี (344) และสุรินทร์ (344)
  12. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 350 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ (343) ยโสธร (343) และลำพูน (343)
  13. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 349 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ (342) นครศรีธรรมราช (342) บึงกาฬ (342) เพชรบูรณ์ (342) และร้อยเอ็ด (342)
  14. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 348 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท (341) ชัยภูมิ (341) พัทลุง (341) สิงห์บุรี (341) และอ่างทอง (341)
  15. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 347 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร (340) พิจิตร (340) มหาสารคาม (340) แม่ฮ่องสอน (340) ระนอง (340) ราชบุรี (340) ลำปาง (340) เลย (340) ศรีสะเกษ (340) สตูล (340) สุโขทัย (340) หนองบัวลำภู (340) อำนาจเจริญ (340) อุดรธานี (340) อุตรดิตถ์ (340) และอุทัยธานี (340)
  16. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 345 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตรัง (338) น่าน (338) พะเยา (338) และแพร่ (338)
  17. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 337 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส (330) ปัตตานี (330) และยะลา (330)


      นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง เปิดเผยว่า การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ เป็นการปรับเพื่อให้แรงงานทั่วไปแรกเข้าทำงาน สามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสมควรแก่มาตรฐานการครองชีพ สภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งเหมาะสมตามความสามารถของธุรกิจในท้องถิ่นนั้น ซึ่งการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้จะทำให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ 3,760,679 คน

      สำหรับปี 2568 คณะกรรมการค่าจ้างฯ ได้กระจายอำนาจการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไปยังภูมิภาค โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดรวม 77 คณะ เพื่อนำข้อเสนอแนะอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดมาพิจารณาประกอบข้อเท็จจริงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2560 มาตรา 87

      แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 ด้านความจำเป็นในการครองชีพของลูกจ้าง กลุ่มที่ 2 ด้านความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง กลุ่มที่ 3 ด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม โดยพิจารณาจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ลูกจ้างมีค่าจ้างเพียงพอต่อการดำรงชีวิต และพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค รวมทั้งรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย เพื่อให้นายจ้าง ลูกจ้าง สามารถประกอบธุรกิจและดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งกระทรวงแรงงานจะนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

 

 


 

 

 

ที่มา : https://citly.me/R1cgy