กรมควบคุมโรค แจ้งประเทศแคนาดา รายงานพบผู้ป่วย โรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1)
กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แจ้งประเทศแคนาดา รายงานพบผู้ป่วย โรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1)
วันที่ 14 พ.ย. 2567 จุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR-NFP) ของประเทศแคนาดาได้แจ้งต่อองค์การอนามัยแห่งแพนอเมริกัน/องค์การอนามัยโลก (PAHO/WHO) กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1) ที่ได้รับการตรวจยืนยัน จากห้องปฏิบัติการในรัฐบริติชโคลัมเบีย (B.C.)
วันที่ 9 พ.ย. 2567 สํานักงานสาธารณสุขประจํารัฐบริติชโคลัมเบีย (B.C.) รายงานพบผู้ป่วย วัยรุ่นในเขตสุขภาพเฟรเซอร์ ผู้ป่วยถูกส่งตัวและเข้ารักษาในโรงพยาบาล ผลการตรวจหาเชื้อ เบื้องต้นพบผลบวกต่อเชื้อไข้หวัดนก H5 ประวัติผู้ป่วยเริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2567 โดยผู้ป่วยเข้ารับการรักษาครั้งแรกวันที่ 7 พ.ย. 2567 ด้วยอาการเยื่อบุตาอักเสบและอาการ ทางระบบทางเดินหายใจแย่ลง จากนั้นผู้ป่วยได้รับการส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ในระดับตติยภิมของรัฐ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2567 ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2567 ผู้ป่วยมีภาวะวิกฤติร่วมกับมีกลุ่มอาการหายใจลําบากเฉียบพลัน (ARDS) ผู้ป่วยไม่มีโรคประจําตัวและไม่มีประวัติการเดินทาง นอกจากนี้ยังไม่มีข้อมูลการสัมผัสกับนกหรือสัตว์ปีก ที่มีการติดเชื้อ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม
ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการตรวจผ่านระบบเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ที่เข้มงวดขึ้นในโรงพยาบาล ประเทศแคนาดา ในระหว่างที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน ได้มีการเก็บตัวอย่างผ่านโพรงจมูก ทําการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี multiplex PCR เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์ H1 และสายพันธุ์ H3 ซึ่งผลการพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์ H1 และสายพันธุ์ H3 ตัวอย่างของผู้ป่วยจึงถูกส่งต่อไปยังห้องปฏิบัติการสาธารณสุข ของศูนย์ควบคุมโรคแห่งรัฐบริติชโคลัมเบีย (BCCDC) ผลพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5) ในวันที่ 12 พ.ย. 2567 ตัวอย่างถูกส่งต่อไปยังห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาแห่งชาติ (NML) ของสํานักงานสาธารณสุขแห่งแคนาดา (PHAC) ในเมืองวินนิเพก รัฐแมนิโทบา เพื่อทําการทดสอบและ วิเคราะห์เพิ่มเติม ในวันที่ 13 พ.ย. 2567 NML ยืนยันว่าเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิด A (H5N1) ผลการจัดลําดับจีโนมพบว่า ไวรัสมีความเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1) ที่กําลังมีการระบาดในนกของรัฐบริติชโคลัมเบีย ซึ่งอยู่ใน clade 2.3.4.4b จีโนไทป์ D1.1 ไวรัสนี้ไม่ใช่จีโนไทป์เดียวกับไวรัสสายพันธุ์ A(H5N1) ที่ส่งผลกระทบต่อวัวนมในสหรัฐอเมริกา สําหรับผลการจัดลําดับจีโนมถูกโพสต์บน GISAID เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2567 (รหัส:EPI_ISL_19548836) D11 คือจีโนไทป์ที่พบในการระบาดในนกของรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และประเทศสหรัฐอเมริกา
จีโนมที่มีการกลายพันธุ์ตําแหน่ง E627K ในยีน PB2 ซึ่งเชื่อมโยงกับการที่เชื้อสามารถปรับตัว ได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สําหรับการกลายพันธุ์ลักษณะนี้เคยพบมาก่อนแล้วในการติดเชื้อ ของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้การกลายพันธุ์ตําแหน่ง E627K ไม่พบใน ลําดับพันธุกรรมที่จัดทําโดยหน่วยงานตรวจสอบอาหารของแคนาดา (CFIA) จากไวรัส H5N1 ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดในนกในรัฐบริติชโคลัมเบีย นอกจากนี้ ยังไม่พบการกลายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับ การดื้อต่อยา oseltamivir, zanamivir, balaxovir หรือ amantadine ในลําดับพันธุกรรม ของไวรัส ขณะนี้ NML กําลังวิเคราะห์ความเกี่ยวข้องของไวรัสกับไวรัสวัคซีนต้นแบบ A (H5N1) ที่มีอยู่และการทดสอบพันธุกรรมเพิ่มเติมและการวิเคราะห์กําลังดําเนินการร่วมกันระหว่างทีม BCCDC และทีม NML
วันที่ 12 พ.ย. 2567 พบผู้สัมผัสทั้งหมด 70 ราย มีผู้สัมผัสจํานวน 2 รายที่มีอาการแสดง แต่ผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการยังมีผลเป็นลบ บุคลากรทางการแพทย์และผู้สัมผัสใกล้ชิด อยู่ระหว่างการติดตามอาการ และการรับยาต้านไวรัส เมื่อวันที่ 17 พ.ย. พบว่าผู้ป่วยรายนี้มี การสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงในบ้าน รวมถึงสุนัข (ซึ่งหนึ่งตัวมีอาการ) และแมว ผลการตรวจทาง ห้องปฏิบัติการเบื้องต้นในสัตว์ รวมถึงสุนัขที่มีอาการ พบผลเป็นลบ แต่อยู่ระหว่างรอผล การตรวจทางห้องปฎิบัติการเพิ่มเติม และในขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยรายอื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายนี้
วันที่ 17 พ.ย. 2567 CFIA ยืนยันการตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1) ในสถานประกอบการเลี้ยงสัตว์ปีก จํานวน 36 แห่งในแคนาดาช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2567 ในรัฐบริติชโคลัมเบียและทั่วประเทศแคนาดา ไม่มีรายงานพบไข้หวัดนกในโคนม และไม่มีผลการ พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในตัวอย่างนม นมพาสเจอร์ไรซ์และผลิตภัณฑ์นมยังคงปลอดภัยต่อการบริโภค ตามข้อมูลของ CFIA จํานวนการตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ A(H5N1) ในสัตว์ปีก ในรัฐบริติชโคลัมเบียในปีนี้ใกล้เคียงกับจํานวนที่ตรวจพบในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ที่มา : https://shorturl.asia/encdo