สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งข้อพึงระวังในการหาเสียงและการยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง

สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งข้อพึงระวังในการหาเสียงและการยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง

             สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งข้อพึงระวังในการหาเสียงและการยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยกําหนดให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้ง จึงขอประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังในการหาเสียงเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น


 

 

 

ข้อพึงระวังในการหาเสียงและการยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

           ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยกําหนดให้วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงขอประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังในการหาเสียงเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยมีรายละเอียดดังนี้

ความผิดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง

  • จัดทํา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคํานวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี
  • ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัดหรือศาสนสถานอื่น สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด เป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี
  • ทําการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ เป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งป และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี
  • เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใดเป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี
  • หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครใดเป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกํา
  • การจัดยานพาหนะนําผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้งหรือนํากลับจากที่เลือกตั้ง เพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารหรือค่าจ้าง
  • เป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปีเว้นแต่หน่วยงานของรัฐที่จะจัดยานพาหนะเพื่ออํานวยความสะดวกให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องแจ้งเรื่องให้ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดทราบก่อนดําเนินการห้ามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นจัดยานพาหนะเพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
  • ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเข้ามีส่วนช่วยเหลือในการเลือกตั้ง หรือกระทําการใด ๆ เพื่อประโยชน์แก่การเลือกตั้งที่อาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ทั้งนี้ เว้นแต่การกระทํานั้นเป็นการช่วยราชการตามที่ทางราชการร้องขอ หรือเป็นการประกอบอาชีพตามปกติโดยสุจริตของผู้นั้นเป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท
  • เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตําแหน่งหน้าที่กระทําการใด ๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร เว้นแต่เป็นการกระทําตามหน้าที่และอํานาจเป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปีหรือทั้งจําทั้งปรับ
  • ห้ามมิให้ผู้ใดทําการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใด ๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร นับตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกาของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง (ห้ามหาเสียงตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกา ของวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2568 จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568) เป็นความผิดมีโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ความผิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง

  • กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจํานวนเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้อํานวยการ การเลือกตั้งประจําจังหวัดกําหนด รวมถึงบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้จ่ายและทรัพย์สินที่บุคคลอื่นได้นํามาให้ใช้ หรือยกให้โดยไม่คิดค่าตอบแทน และบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้ใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัคร และผู้สมัครได้รับทราบถึงการกระทําดังกล่าวเป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือปรับ เป็นจํานวน 3 เท่าของจํานวนเงินที่เกินจํานวนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งที่ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัด ประกาศกําหนด แล้วแต่จํานวนใดจะมากกว่ากัน หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 10 ปี
  • ผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งภายใน 90 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ต่อผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดเป็นความผิดมีโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 5 ปี
  • ผู้สมัครรับเลือกตั้งยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายเป็นเท็จเป็นความผิดมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท และให้ศาล
  • สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 10 ปี

           สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ที่เว็บไซต์สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสาย

 


ที่มา : https://shorturl.asia/SkXje