ปภ. แจ้งเตือน 70 จังหวัดเฝ้าระวังอุณหภูมิลดลง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 10 – 13 ม.ค. 68

ปภ. แจ้งเตือน 70 จังหวัดเฝ้าระวังอุณหภูมิลดลง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 10 – 13 ม.ค. 68

          ปภ. แจ้งเตือน 70 จังหวัดเฝ้าระวังอุณหภูมิลดลง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 10 – 13 มกราคม 2568 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือ


 

          นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (1/2568) ลงวันที่ 8 ม.ค. 68 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 10 – 13 มกราคม 2568 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5 – 7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2 – 5 องศาเซลเซียส ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 10 – 13 มกราคม 2568 ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลง

    • บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ภาคใต้ จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่

    • จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ท่าศาลา และอำเภอลานสกา)
    • จังหวัดพัทลุง (อำเภอป่าบอน ศรีนครินทร์ และอำเภอกงหรา)
    • จังหวัดสงขลา (อำเภอระโนด ควนเนียง จะนะ นาทวี สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย)
    • จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี ไม้แก่น กะพ้อ ยะรัง สายบุรี ยะหริ่ง ทุ่งยางแดง ปะนาเระ หนองจิก และอำเภอมายอ)
    • จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง ธารโต บันนังสตา ยะหา และอำเภอรามัน)
    • จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส บาเจาะ ศรีสาคร เจาะไอร้อง ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ จะแนะ สุไหงโก-ลก สุไหงปาดี และอำเภอตากใบ)

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ภาคใต้ จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่

    • จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ทุกอำเภอ)
    • จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร ปะทิว สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และอำเภอละแม)
    • จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ไชยา ท่าชนะ ท่าฉาง พุนพิน ดอนสัก กาญจนดิษฐ์ เกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน)
    • จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล ท่าศาลา ปากพนัง และอำเภอหัวไทร)
    • จังหวัดสงขลา (อำเภอเมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร จะนะ และอำเภอเทพา)
    • จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก ยะหริ่ง ปะนาเระ สายบุรี และอำเภอไม้แก่น)
    • จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอตากใบ)

          กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นทีเสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเจ้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ขอให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

          สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลงนั้น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ให้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และให้คำแนะนำประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เพื่อป้องกันการเกิดอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้น

          ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

 


 

ที่มา : https://citly.me/KYH3n