ธนาคารกรุงไทย แนะวิธีการดำเนินการตามมาตรการยกระดับความปลอดภัย การใช้งาน Mobile Banking
ธนาคารกรุงไทย แนะวิธีการดำเนินการตามมาตรการยกระดับความปลอดภัย การใช้งาน Mobile Banking ให้ชื่อผู้ใช้งานตรงกับชื่อเจ้าของซิม สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีและโมบายแบงก์กิ้ง ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 สำหรับลูกค้า Krungthai NEXT และ เป๋าตัง ที่อยู่ในกลุ่มที่ต้องดำเนินการ จะได้รับแจ้งวิธีการผ่าน แอปฯ Krungthai NEXT และ เป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
ธนาคาร เตรียมยกระดับความปลอดภัยการใช้งานแอปฯ Krungthai NEXT และ เป๋าตัง โดยตรวจสอบซิมการ์ดที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้งให้มีชื่อตรงกัน ก่อนมาตรการจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(DE) จะมีผลบังคับใช้ โปรดตรวจสอบข้อมูลชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง และชื่อที่ลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ตรงกัน โดยจะดำเนินการเริ่มจาก 2 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่เปิดบัญชีและโมบายแบงกิ้ง ตั้งแต่ มกราคม ปี พ.ศ.2565 ที่ข้อมูล Passport ผู้ถือครองซิมการ์ดโมบายแบงกิ้งกับเจ้าของบัญชีธนาคาร ไม่ตรงกัน
- กลุ่มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่เปิดบัญชีและโมบายแบงกิ้ง ตั้งแต่ มกราคม ปี พ.ศ.2565 ที่ทาง กสทช.แจ้งว่าปัจจุบันไม่พบข้อมูลผู้ถือครองซิมการ์ด
วิธีการตรวจสอบความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ด้วยตนเอง
- กด *179*หมายเลขบัตรประชาชน13หลัก# แล้วกดโทรออก
- หากพบว่าชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือไม่ตรงกับชื่อบัญชีธนาคารท่านสามารถดำเนินการได้โดย
- ทางเลือกที่ 1 : ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของท่าน เพื่อขอเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ตรงกับชื่อบัญชีธนาคาร
- ทางเลือกที่ 2 : ติดต่อสาขาของธนาคารเพื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง ให้ตรงกับชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือ
- ทางเลือกที่ 3 : กรณีต้องการขอยกเว้นมาตรการนี้ ท่านสามารถติดต่อสาขาของธนาคาร เพื่อยื่นคำขอเข้ากลุ่มยกเว้น เช่น บุคคลในครอบครัว ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิการ และกลุ่มนิติบุคคล โดยท่านจะต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนและเอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์
หมายเหตุ : เพื่อป้องกันบัญชีโมบายแบงก์กิ้งของท่านถูกระงับการใช้งาน โปรดดำเนินการภายในวันที่ 30 เมษายน 2568
ที่มา : https://krungthai.com/th/krungthai-update/announcement-detail/3040