ภาษีที่ดิน..ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

       ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นเรื่องที่หลายคนอาจกังวลเมื่อได้ยินชื่อ แต่ในความเป็นจริง ภาษีประเภทนี้ไม่ได้เป็นภาระหนักอย่างที่คิด หากเราทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการคิดภาษี การยกเว้น รวมถึงแนวทางในการลดหย่อนภาษีที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถจัดการภาระภาษีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

       ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเชิงลึก ทั้งในแง่ของประเภท อัตราภาษี วิธีการคำนวณ สิทธิประโยชน์ และแนวทางการลดหย่อนภาษี เพื่อให้คุณสามารถบริหารจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ต้องกังวลจนเกินไป โดยมีเนื้อดังนี้

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร?

       ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นภาษีที่เก็บจากมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในครอบครองของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งใช้แทนภาษีโรงเรือนและภาษีบำรุงท้องที่ที่เคยใช้ในอดีต

       การจัดเก็บภาษีประเภทนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงช่วยเพิ่มรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำไปใช้พัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ

ใครบ้างที่ต้องเสียภาษี?

    • บุคคลหรือหน่วยงานที่ต้องเสียภาษี ได้แก่
        1. เจ้าของที่ดิน – ไม่ว่าที่ดินนั้นจะถูกใช้หรือถูกปล่อยทิ้งร้างก็ตาม
        2. เจ้าของสิ่งปลูกสร้าง – หากมีการสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ หรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ บนที่ดิน
        3. ผู้ถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด – เช่น เจ้าของคอนโดมิเนียม
    • สำหรับเจ้าของบ้านที่ปลูกสร้างบนที่ดินของคนอื่น จะต้องเสียภาษีเฉพาะในส่วนของสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น ไม่รวมถึงภาษีที่ดิน

คำนิยาม

      พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2562 เริ่มการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งได้ยกเลิกการเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินและ ภาษีบํารุงท้องที่ โดยจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทน

ฐานภาษี

ฐานภาษี

    • คือ มูลค่าทั้งหมดของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง

ที่ดิน

    • หมายความว่า พื้นที่ดิน รวมถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือมีน้ำด้วย (แม่น้ำและทะเลไม่นับเป็นที่ดินตามพระราชบัญญัตินี้) ได้แก่
        1. ที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เช่น โฉนด ตราจอง ตราจอง
          ที่ตราว่าได้ทําประโยชน์ นส.3, นส.3 ก และ นส.3 ข
        2. ที่ดินที่ไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล แต่อยู่ในความครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เช่น สปก.4-01, ก.ส.น., ส.ค.1, น.ค.3, น.ค.3ก, ส.ท.ก.1, น.ส.2(ปัจจุบันยกเลิกแล้ว) และที่ดินอื่นในทรัพย์สินของรัฐซึ่งรัฐมิได้ใช้ประโยชน์แต่มีการนำไปครอบครองหรือหาประโยชน์
    • ฐานภาษีของที่ดิน ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ

สิ่งปลูกสร้าง

    • หมายความว่า โรงเรือน อาคาร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น
    • ที่บุคคลเข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้ หรือใช้เป็นที่เก็บสินค้าหรือประกอบอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรม
    • และหมายความรวมถึงห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดแล้ว หรือแพที่อาจใช้อยู่อาศัยได้ หรือมีไว้เพื่อหาผลประโยชน์ด้วย
    • ไม่รวมถึงเครื่องจักรซึ่งเป็นส่วนควบของโรงเรือนแต่อย่างใด
    • ในกรณีที่สิ่งปลูกสร้างยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จและไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ จึงไม่ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียภาษี ตามพระราชบัญญัตินี้
    • ฐานภาษีสิ่งปลูกสร้าง ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ สิ่งปลูกสร้างเป็นเกณฑ์ในการคํานวณ
    • ฐานภาษีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ

ราคาประเมิน

ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด

    • คือ ราคาประเมินทุนทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน และเป็นบัญชีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับแจ้งจากกรมธนารักษ์หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 กําหนดให้บรรดาบทบัญญัติ
    • กรมธนารักษ์หรือสํานักงานธนารักษ์พื้นที่ จะส่งบัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุดตามมาตรา 35 ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

หากต้องการตรวจสอบราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ผู้เสียภาษี

บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล

    • ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง
    • หรือเป็นผู้ครอบครองหรือทําประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ
    • ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ เสียภาษี ตามพระราช บัญญัตินี้
    • และให้หมายความรวมถึงผู้มีหน้าที่ชําระภาษีแทนผู้เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย (ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง อยู่ใน วันที่ 1 มกราคม ของปีภาษีนั้น)

กรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่มีเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันหลายคน

    • ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อภาษีดังกล่าว

ผู้จัดเก็บภาษี

  • เทศบาล
  • องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
  • กรุงเทพมหานคร
  • เมืองพัทยา

ขั้นตอนการดําเนินงาน

กำหนดการ

การดำเนินการกำหนดเวลาเดิมปี 2568 **ขยายเวลา
ประกาศบัญชีรายการ
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ภายในเดือนพฤศจิกายนภายในเดือนมกราคม 2568
ผู้เสียภาษีตรวจสอบรายการ
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อขอแก้ไขข้อมูล
ยื่นคำร้องขอแก้ไข ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งยื่นคำร้องขอแก้ไข ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
ประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ของปีนั้นก่อนวันที่ 1 เมษายน 2568
แจ้งการประเมินภาษีภายในเดือนกุมภาพันธ์ภายในเดือนเมษายน 2568
ยื่นคําร้องคัดค้าน (ก.ค.ส.10)ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับ
หนังสือแจ้งประเมิน
ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งประเมิน
ชำระภาษีภายในเดือนเมษายน ภายในเดือนมิถุนายน 2568
ผ่อนชำระภาษีเมษายน – มิถุนายน🗓 งวดที่ 1 ภายในเดือนมิถุนายน 2568
🗓 งวดที่ 2 ภายในเดือนกรกฎาคม 2568
🗓 งวดที่ 3 ภายในเดือนสิงหาคม 2568
แจ้งเตือนภาษีชำระค้างภายในเดือนพฤษภาคมภายในเดือนกรกฎาคม 2568
แจ้งรายการภาษีค้างชำระ
ให้กับสำนักงานที่ดิน
ภายในเดือนมิถุนายนภายในเดือนสิงหาคม 2568

การดำเนินการของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ต้องรู้

เมื่อผู้เสียภาษีได้รับบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ภ.ด.ส.3) และบัญชีรายการห้องชุด (ภ.ด.ส.4)

    • ผู้เสียภาษีมีหน้าที่ตรวจสอบ จํานวน ขนาด ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและการใช้ประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่

หากผู้เสียภาษีเห็นว่าบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ก.ค.ส.3) และบัญชีรายการห้องชุด (ภ.ด.ส.4) ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง

    • ให้ยื่นคําร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขอแก้ไขให้ถูกต้อง

กรณีผู้เสียภาษีมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง

    • อันมีผลทําให้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้นหรือลดลง
    • ให้ผู้เสียภาษีแจ้งการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ต่อเทศบาล/อบต./กทม./เมืองพัทยา ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ มีการเปลี่ยนแปลง หรือวันที่ผู้เสียภาษีรู้ถึงเหตุดังกล่าว

วิธีคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ต้องชำระ = มูลค่าที่ดิน + (มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง – ค่าเสื่อมโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง) x อัตราภาษี

อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แบ่งตามการใช้ประโยชน์ 4 ประเภท ได้แก่

    1. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม
    2. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย
    3. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่น นอกจาก (1) และ (2)
    4. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างว่างเปล่าหรือไม่ได้ทําประโยชน์ตามควรแก่สภาพ

1. ประกอบเกษตรกรรม

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม
อัตราภาษี ไม่เกิน 0.15% ของฐานภาษี
มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัตราภาษี
  0 – 75 ล้านบาท0.01%
  เกิน 75 – 100 ล้านบาท0.03%
  เกิน 100 – 500 ล้านบาท0.05%
  เกิน 500 – 1,000 ล้านบาท0.07%
  1,000 ล้านบาท ขึ้นไป0.10%

กำหนดอัตราขั้นต่ำของการใช้ที่ดินสำหรับการปลูกพืชแต่ละชนิด

ชนิดอัตราขั้นต่ำ (ต้น/ไร่) ชนิดอัตราขั้นต่ำ (ต้น/ไร่)
 1. กล้วยหอม200  29. มะละกอ 
 2. กล้วยไข่200         – (ยกร่อง)100
 3. กล้วยน้าว้า200         – (ไม่ยกร่อง)175
 4. กระท้อนเปรี้ยว25  30. มะนาว50
       – พันธุ์ทับทิม25  31. มะปราง25
       – พันธุ์ปุยฝ้าย25  32. มะขามเปรี้ยว25
 5. กาแฟ170  33. มะขามหวาน25
       – พันธุ์โรบัสต้า170  34. มังคุด16
       – พันธุ์อราบิก้า400  35. ยางพารา80
 6. กานพลู20  36. ลิ้นจี่20
 7. กระวาน100  37. ลำไย20
 8. โกโก้150-170  38. ละมุด45
 9. ขนุน25  39. ลางสาด45
 10. เงาะ20  40. ลองกอง45
 11. จำปาดะ25  41. ส้มโอ45
 12. จันทร์เทศ25  42. ส้มเกลี้ยง45
 13. ชมพู่45  43. ส้มตรา45
 14. ทุเรียน20  44. ส้มเขียวหวาน45
 15. ท้อ45  45. ส้มจุก45
 16. น้อยหน่า170  46. สาลี่45
 17. นุ่น25  47. สะตอ25
 18. บ๊วย45  48. หน่อไม้ไผ่ตง25
 19. ปาล์มน้ำมัน22  49. หมาก100-170
 20. ฝรั่ง45  50. หม่อน35
 21. พุทรา80  51. องุ่น35
 22. เสาวรส400  52. แก้วมังกร35
 23. พริกไทย400  53. แอปเปิล35
 24. พลู100  54. อะโวคาโด35
 25. มะม่วง20  55. อินทผลัม35
 26. มะพร้าวแก่20  56. ยูคาลิปตัส35
 27. มะพร้าวอ่อน20  57. พืชกลุ่มให้เนื้อไม้30
 28. มะม่วงหิมพานต์45   

มาตรา 40

    • ในกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมอยู่ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นรวมกันในการคํานวณภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท
    • การยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศกําหนด

2. ใช้เป็นที่อยู่อาศัย

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย
อัตราภาษี ไม่เกิน 0.3% ของฐานภาษี
มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบ้าน
(หลังหลัก)
บ้าน+ที่ดิน
(หลังหลัก)
บ้านหลังอื่น ๆ
  0 – 10 ล้านบาทยกเว้นภาษีได้รับการยกเว้นมูลค่าของฐานภาษี 50 ล้านบาท0.02%
  เกิน 10 – 50 ล้านบาท0.02%
  เกิน 50 – 75 ล้านบาท0.03%0.03%0.03%
  เกิน 75 – 100 ล้านบาท0.05%0.05%0.05%
  100 ล้านบาท ขึ้นไป0.10%0.10%0.10%

🏠 กรณีบ้านหลังหลัก (มาตรา 41)

🟤 เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

        • บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (มีชื่อในโฉนด)
        • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคม ของปีภาษี
        • ใช้เพื่ออยู่อาศัย ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในการคํานวณภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท

🟣เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง

        • บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง
        • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคม ของปีภาษี
        • ใช้เพื่ออยู่อาศัย ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในการคํานวณภาษีไม่เกิน 10 ล้านบาท

3. ใช้ประโยชน์อื่น

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่น นอกจาก (1) และ (2)
อัตราภาษี ไม่เกิน 1.2% ของฐานภาษี
  • เช่น พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

4. ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างว่างเปล่าหรือไม่ได้ทําประโยชน์ตามควรแก่สภาพอัตราภาษี ไม่เกิน 1.2% ของฐานภาษี
มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัตราภาษี
  0 – 50 ล้านบาท0.03%
  เกิน 50 – 200 ล้านบาท0.04%
  เกิน 200 – 1,000 ล้านบาท0.05%
  เกิน 1,000 – 5,000 ล้านบาท0.06%
  5,000 ล้านบาท ขึ้นไป0.07%

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ หมายถึง …

    • ที่ดิน ที่โดยสภาพสามารถทําประโยชน์ได้แต่ไม่มีการทําประโยชน์ในที่ดินนั้นตลอดทั้งปี
    • สิ่งปลูกสร้าง ที่โดยสภาพสามารถทําประโยชน์ได้ แต่ถูกทิ้งรกร้างและไม่มีการทําประโยชน์ในสิ่งปลูกสร้างนั้นตลอดทั้งปี

อัตราภาษีสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ถูกปล่อยทิ้งร้างหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม

    1. อัตราภาษีเริ่มต้น

        • ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือทิ้งร้าง จะถูกจัดเก็บภาษีที่อัตราสูงสุด ไม่เกิน 1.2% ของฐานภาษี
    2. การเพิ่มขึ้นของภาษี

        • หากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ในปีที่ 4 ของการถูกทิ้งร้าง อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากอัตราที่จัดเก็บ
        • และจะเพิ่มอีก 0.3% ทุก ๆ 3 ปี หากยังคงไม่มีการใช้ประโยชน์
        • การเพิ่มขึ้นของภาษีจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราภาษีที่เสียรวมทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 3% ของฐานภาษี 

การผ่อนชำระ

การแบ่งงวดชำระ

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่ 3,000 บาท ขึ้นไป สามารถผ่อนชำระเป็น 3 งวดเท่าๆ กัน

    • งวดที่ 1 ชําระภายใน เดือนเมษายน ของปี
    • งวดที่ 2 ชําาระภายใน เดือนพฤษภาคม ของปี
    • งวดที่ 3 ชําระภายใน เดือนมิถุนายน ของปี

สำหรับบุคคลธรรมดา

เอกสารที่ใช้ในการขอผ่อนชำระ

    • สำเนาบัตรประชาชน 

กรณีมอบอำนาจ

    1. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของทรัพย์สิน
    2. หนังสือมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท
    3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

สำหรับนิติบุคคล

เอกสารที่ใช้ในการขอผ่อนชำระ

    1. สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม
    2. สำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท

กรณีมอบอำนาจ

    1. สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม
    2. สำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท
    3. หนังสือมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท
    4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

ค่าปรับ กรณีค้างชำระ/จ่ายล่าช้า

      หากผู้ชําระภาษีไม่ชําระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในระยะเวลาที่กําหนด จะต้องชําระเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

อัตราเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

ชําระภาษี ก่อน ได้รับหนังสือแจ้งเตือนการชําระภาษี

    • เบี้ยปรับ 10% + เงินเพิ่ม 1% ต่อเดือน
      (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน)

ชําระภาษี ภายในวันที่กําหนด ไว้ในหนังสือแจ้งเตือน

    • เบี้ยปรับ 20% + เงินเพิ่ม 1% ต่อเดือน
      (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน)

ชําระภาษี เกินวันที่กําหนด ไว้ในหนังสือแจ้งเตือน

    • เบี้ยปรับ 40% + เงินเพิ่ม 1% ต่อเดือน
      (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน

ผลกระทบจากการค้างชำระภาษี

เมื่อท่านค้างชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

    • เทศบาล/อบต./ กทม. และเมืองพัทยา มีหน้าที่แจ้งรายการภาษีค้างชําระให้สํานักงานที่ดินทราบ
    • ส่งผลให้เจ้าของทรัพย์สินไม่สามารถกระทํา การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ ครอบครองในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างได้

เมื่อผู้เสียภาษีรายใดมาชําระภาษีที่ค้างชําระครบถ้วน

    • เทศบาล/อบต./ กทม. และเมืองพัทยา จะมีหนังสือแจ้งยกเลิกการระงับสิทธิ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือห้องชุดให้สํานักงานที่ดินรับทราบ

การคัดค้านและอุทธรณ์การประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

เมื่อผู้เสียภาษีได้รับหนังสือแจ้งประเมินภาษีที่ดินฯ (ภ.ด.ส.6)

หากผู้เสียภาษีไม่เห็นด้วยกับการประเมินของเจ้าพนักงาน

    • จะต้องใช้สิทธิที่เรียกว่า “คัดค้านการประเมิน” ต่อผู้บริหารท้องถิ่น

หากผู้บริหารท้องถิ่นมีคำวินิจฉัย “ไม่เห็นชอบกับคำคัดค้านการประเมิน”

    • หมายความว่า จะแพ้ในชั้นคัดค้านการประเมิน
    • ท่านก็จะมีสิทธิร้องต่อไปในครั้งที่ 2 เรียกว่า “อุทธรณ์การประเมิน” ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์

หากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยให้ “ยกคำอุทธรณ์การประเมิน”

    • ก็จะมีสิทธิร้องครั้งที่ 3 คือ ฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลภาษีอากรกลางต่อไป

การยื่นคัดค้านการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ภ.ด.ส.10)

เมื่อผู้เสียภาษีรายใดได้รับแจ้งการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แล้วเห็นว่าการประเมินภาษีไม่ถูกต้อง

1. ยื่นคําร้องคัดค้านการประเมิน

    • ยื่นคําร้องคัดค้านการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามมาตรา 73 วรรคหนึ่ง (ภ.ด.ส.10) ต่อผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อ พิจารณาทบทวนการประเมินภาษี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
    • โดยวิธีการยื่นด้วยตนเอง ณ เขตหรือเทศบาลที่ที่ดินตั้งอยู่ หรือตามวิธีการ/ช่องทางที่องค์กรท้องถิ่นเป็นผู้กำหนด
    • ผู้บริหารท้องถิ่นมีเวลา 60 วัน ในการพิจารณาและวินิจฉัยว่าจะเห็นด้วยกับคำร้องคัดค้านการประเมินภาษีที่ดินฯ ของท่านหรือไม่

2. ยื่นคำร้องขอทุเลาการชำระภาษี

    • กรณีที่ท่านยังไม่ต้องการชำระภาษีที่ดินฯ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ถูกยึดอายัดทรัพย์มาชำระภาษีระหว่างคัดค้าน การประเมิน
    • เป็นสิ่งที่ควรทำไปพร้อมกับการยื่นคัดค้านการประเมินฯ
    • โดยผู้บริหารท้องถิ่นอาจสั่งให้ท่านหาหนังสือค้ำประกันมายื่นประกอบ ก็ได้ 

การยื่นอุทธรณ์

     การยื่นอุทธรณ์การประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามมาตรา 73 กรณีผู้เสียภาษีได้ยื่นคําร้องคัดค้าน (ภ.ด.ส.10) แต่ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาไม่เห็นชอบกับคําร้องของผู้เสียภาษี

    1. ให้ผู้เสียภาษีนั้น มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีโดยยื่นอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
    2. ให้ผู้บริหารท้องถิ่น ส่งคําอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคําอุทธรณ์

ข้อควรทราบ

  • การคัดค้านและการอุทธรณ์ไม่เป็นการทุเลาการชําระภาษี
  • เว้นแต่ผู้เสียภาษีจะได้ยื่นคําร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นขอให้ทุเลาการชําระภาษีไว้ก่อน และผู้บริหารท้องถิ่นมีคําสั่งให้ทุเลาการชําระภาษีแล้ว
  • ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีคําสั่งให้ทุเลาการชําระภาษีเฉพาะส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นจากจํานวนภาษี ที่ต้องเสียในปีก่อน และจะสั่งให้วางประกันตามที่เห็นสมควรก็ได้

ทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

       พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ได้กำหนดรายละเอียดของทรัพย์สินที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้ในมาตรา 8 ดังนี้

    1. ทรัพย์สินของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐซึ่งใช้ในกิจการของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ
    2. ทรัพย์สินที่เป็นที่ทำการองค์การสหประชาชาติ ทบวงการชำนัญพิเศษขององค์การสหประชาชาติหรือองค์การระหว่างประเทศอื่น ซึ่งประเทศไทยมีข้อผูกพันที่ต้องยกเว้นภาษี
    3. ทรัพย์สินที่เป็นการทำการสถานทูต
    4. ทรัพย์สินของสภากาชาดไทย
    5. ทรัพย์สินที่เป็นศาสนสมบัติ ซึ่งประกอบศาสนกิจหรือกิจการสาธารณะ หรือทรัพย์สินที่เป็นที่อยู่ของสงฆ์ นักบวช นักพรต บาทหลวง ทุกศาสนา ศาลเจ้าที่มิได้ใช้หาผลประโยชน์
    6. ทรัพย์สินที่ใช้เป็นสุสานสาธารณะ
    7. ทรัพย์สินที่ใช้เป็นมูลนิธิหรือองค์การหรือสุถานสาธารณกุศลตามที่รัฐมนตีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด เฉพาะที่มิได้ใช้หาผลประโยชน์จึงจะได้รับการยกเว้นภาษี
    8. ทรัพย์สินของเอกชนเฉพาะส่วนที่ได้ยินยอมให้ทางราชการจัดให้ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด
    9. ทรัพย์สินส่วนกลางที่มีไว้เพื่อใช้หรือเพื่อประโยชน์ร่วมกันสำหรับเจ้าของร่วมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
    10. ที่ดินเป็นสาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน เช่น ถนน สวน หรือ สนามเด็กเล่น
    11. ที่ดินอันเป็นพื้นที่สาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
    12. ทรัพย์สินอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

เอกสารอ่านเพิ่มเติม