กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุน วัด ชุมชน ตั้ง “โรงเรียนเบาหวานคณาราม”
กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุน วัด ชุมชน ตั้ง “โรงเรียนเบาหวานคณาราม” ใช้วัดเป็นพื้นที่กลางในการสร้างสุขภาวะ พร้อมแทรกหลักธรรม ปรับพฤติกรรมสุขภาพพระสงฆ์ และประชาชนทั้งที่เป็นผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน นำร่องที่ วัดอาศรมธรรมทายาท จังหวัดนครราชสีมา ช่วยผู้ป่วย 98% มีค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมในเลือดลดลง ขยายผลต่อเนื่องที่ วัดดาวเรือง วัดศรีชมภู จังหวัดชัยภูมิ วัดท่าประชุม จังหวัดขอนแก่น และมีวัดที่สนใจหลักสูตรอีกจำนวนมาก
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากนโยบายคนไทยห่างไกล NCDs ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งลดการเจ็บป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของคนไทยด้วยการปรับพฤติกรรมสุขภาพ ได้มีการต่อยอดไปถึงการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ โดยจัดตั้ง “โรงเรียนเบาหวานคณาราม” ซึ่งมีต้นแบบมาจากโรงเรียนเบาหวานวิทยา ที่ใช้ชุมชนเป็นฐานในการดูแลผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน นำร่องแห่งแรกที่วัดอาศรมธรรมทายาท อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้จุดเด่นของโรงเรียนเบาหวานวิทยา รวมกับเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) มีวัดเป็นพื้นที่กลางในการสร้างสุขภาวะเพื่อเป้าหมาย “พระสงฆ์แข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข”ตามธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ/ทัศนคติของพระสงฆ์และคนในชุมชนเพื่อลดโรคอ้วน โรคเบาหวาน มีการแทรกหลักธรรม เช่น อริยสัจ 4 ภาวนา 4 คือ กายภาวนา (พัฒนาร่างกาย)ศีลภาวนา (พัฒนาสังคม) จิตภาวนา (พัฒนาจิต) และ ปัญญาภาวนา (พัฒนาปัญญา) ให้เกิดการเปลี่ยนแนวความคิดว่า “เบาหวานหายได้ เรารับผิดชอบสุขภาพของเรา และมุ่งมั่นพากเพียรเปลี่ยนพฤติกรรม”
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนงานเชิงรุกในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จนสามารถลดผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือของ 5 เสาหลัก ได้แก่ 1) โรงพยาบาล 2) รพ.สต. 3) โรงเรียน คือการนำผู้ป่วย-กลุ่มเสี่ยงมาเรียนรู้ร่วมกัน 4) ครอบครัว ร่วมรับรู้และช่วยให้เกิดการปรับพฤติกรรมสุขภาพ กินอาหารตามหลักสูตร เช่น Low คาร์บ “กินได้ไม่อด” และ 5) คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ซึ่งจากการดำเนินงานโรงเรียนเบาหวานคณาราม วัดอาศรมธรรมทายาท ในนักเรียนเบาหวาน 3 รุ่น รวม 165 รูป/คน เป็นกลุ่มปกติ 37 รูป/คน กลุ่มเสี่ยง 54 รูป/คน กลุ่มป่วย 74 รูป/คน พบว่า กลุ่มเสี่ยง 60% กลับมาเป็นกลุ่มปกติ กลุ่มป่วย 98% มีค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) ลดลง ซึ่งมีวัดในเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนานำไปขยายผลเพิ่มเติมที่วัดดาวเรือง และ วัดศรีชมภู จังหวัดชัยภูมิ และวัดท่าประชุม จังหวัดขอนแก่น ล่าสุด มีวัดที่สนใจนำหลักสูตรไปดำเนินการในชุมชนจำนวนมาก เฉพาะเขตสุขภาพที่ 7 ได้แสดงความประสงค์ถึง 21 วัด
ด้าน นพ.สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรเบาหวานคณาราม ประกอบด้วย 4 อ. คือ
- อารมณ์ จะฝึกสมาธิ สนทนาธรรม สวดมนต์ ไม่ให้นักเรียนมีความเครียดและมีอารมณ์ดีสม่ำเสมอ
- ออกกำลังกายทุกวัน
- อาหาร ลดแป้ง ลดน้ำตาล ลดหวาน
- เอาพิษออก ด้วยการดื่มน้ำ ทำกัวซา ดื่มน้ำสมุนไพรปรับสมดุล อบสมุนไพร แช่มือ แช่เท้า เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมี อสม.จิตอาสา เจ้าหน้าที่ รพ.สต. ตรวจคัดกรองสุขภาพ ประกอบด้วย ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว เจาะน้ำตาลปลายนิ้ว วัดความดันโลหิต คำนวณคาร์โบไฮเดรตที่ควรได้รับในแต่ละวัน (นับคาร์บ) และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่เคยเข้าร่วมหลักสูตรฯ เพื่อสร้างกำลังใจ/แรงบันดาลใจในการปรับพฤติกรรมสุขภาพ โดยหลักสูตรมีระยะเวลา 12 สัปดาห์ ตามอายุของเซลล์เม็ดเลือดที่มีอายุประมาณ 12 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เห็นผลของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการสร้างเซลล์เม็ดเลือดใหม่ที่น้ำตาลในเลือดลดลง รวมทั้งการได้พบกับกลุ่มนักเรียนด้วยกันบ่อยครั้งตลอดระยะหลักสูตร จะเป็นแรงกระตุ้นให้ตื่นตัวและสร้างความตระหนักได้ดี
ที่มา : https://shorturl.asia/hBpsN