ตม.เตรียมย้ายผู้ต้องกักติดโควิดไป รพ.สนาม พรุ่งนี้ (24 มี.ค. 64)

ตม.เตรียมย้ายผู้ต้องกักติดโควิดไป รพ.สนาม พรุ่งนี้ (24 มี.ค. 64)

          สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หลังพบมีผู้ต้องกักติดเชื้อแล้ว 393 คน และมีตำรวจติดเชื้ออีก 1 นาย โดยระบุว่า วันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.64) จะมีการย้ายผู้ต้องกักทั้งหมด ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามชั่วคราว



          พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หลังพบมีผู้ต้องกักติดเชื้อแล้ว 393 คน และมีตำรวจติดเชื้ออีก 1 นาย โดยระบุว่า วันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.64) จะมีการย้ายผู้ต้องกักทั้งหมด ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามชั่วคราว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ใช้โรงยิมกองสวัสดิการ สนามบุญยะจินดา สโมสรตำรวจ เป็นที่ตั้ง ส่วนขั้นตอนการโยกย้ายผู้ต้องกัก จะมีการประชุมสรุปร่วมกับกรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ยืนยันการดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และขอให้ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งข้าราชการตำรวจหน่วยงานข้างเคียง มั่นใจ ในมาตรการควบคุมโรค เนื่องจากการตั้งโรงพยาบาลสนาม ได้นำโมเดลจากตรวจคนเข้าเมืองสงขลาและโรงพยาบาลสนามที่จังหวัดสมุทรสาครมาใช้ ซึ่งที่ผ่านมาชุมชนใกล้โรงพยาบาลสนามไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภายในจะมีการสวมชุด PPE ตลอดเวลา และได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกทุกคนแล้ว ส่วนด้านนอก ก็มีการติดกล้องวงจรปิด เพื่อดูแลการเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง

          สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในสถานกักตัวคนต่างด้าวเพื่อรอส่งกลับ เช่น งดรับผู้ต้องกักใหม่จนกว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ รวมทั้งลดจำนวนผู้ต้องกักในการดูแลและให้ตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ทำการคัดแยกผู้ต้องกักที่มีความเสี่ยงและประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อจัดแผนรองรับและเตรียมจัดหาพื้นที่เพื่อสร้างโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีก หากเกิดกรณีผู้ต้องกักติดเชื้อเพิ่ม ส่วนกรณีจำเป็นผู้ต้องกักรายใหม่ ต้องมีห้องแยกอย่างชัดเจนกับผู้ต้องกักรายอื่น และกำชับให้ผู้บังคับบัญชา ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่ม นอกจากนี้ สั่งกำชับการดูแลอุปกรณ์เกี่ยวกับการแพทย์ ไม่ให้บกพร่อง รวมทั้งจัดที่พักแพทย์และพยาบาลที่จะไปดูแลผู้ป่วยไว้แล้ว

 


 

ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210323141621227