กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลสำรวจการรู้หนังสือปี 2568 ไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 อาเซียน และอันดับ 37 ของโลก

กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลสำรวจการรู้หนังสือปี 2568 ไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 อาเซียน และอันดับ 37 ของโลก

          กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลสำรวจการรู้หนังสือของประชากรไทยในปี 2568 ที่มีการเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 98.83 ส่งผลให้อันดับการรู้หนังสือของไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และอยู่ในอันดับที่ 37 ของโลก เป็นภาพสะท้อนของโอกาสทางการศึกษาและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะนำข้อมูลดังกล่าวไปวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยในระยะยาว เพื่อยกระดับขีดความสามารถของประชากรไทยให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติ   และเตรียมส่งข้อมูลการสำรวจดังกล่าวเพื่อใช้ในการจัดอันดับด้านการศึกษาระดับนานาชาติอย่างแม่นยำ คาดว่าแนวโน้มอันดับของไทยจะดีขึ้น ส่งผลให้สะท้อนคุณภาพการศึกษาและสร้างความเชื่อมั่นในด้านการศึกษาไทยในสายตาของประชาคมโลก


 

 

          พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงผลการสำรวจระดับการรู้หนังสือของประชากรไทยในปี 2568 ที่มีการเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 98.83 ซึ่งส่งผลให้อันดับการรู้หนังสือของไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และอยู่ในอันดับที่ 37 ของโลก ว่า การดำเนินงานดังกล่าวสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ทำการสำรวจและประยุกต์ใช้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับอัตราการรู้หนังสือของประชากรไทยในปี 2568


          ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของสกร. ที่สามารถดำเนินการสำรวจข้อมูลขนาดใหญ่ ครอบคลุมประชากรกว่า 5 แสนคนทั่วประเทศ แม้จะต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก แต่สามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุมและเป็นระบบ นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินงานของสกศ. ที่เร่งนำเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์ ด้วยหลักฐานที่มีความเป็นวิชาการ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีการจัดอันดับของเว็บไซต์ World Population Review อย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส และยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก


          ทั้งนี้ ผลการสำรวจนี้ไม่เพียงเป็นสถิติ แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของโอกาสทางการศึกษาและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะนำข้อมูลดังกล่าวไปวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยในระยะยาว เพื่อยกระดับขีดความสามารถของประชากรไทยให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยมุ่งขับเคลื่อนประเด็นสำคัญ เช่น การพัฒนาทักษะการอ่านในกลุ่มผู้สูงวัย การสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ตลอดชีวิต การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการส่งเสริมการอ่าน และการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทั่วประเทศ


          โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกัน สกศ. ได้มีการหารือกับสถาบันสถิติแห่งยูเนสโก (UIS) และเตรียมส่งข้อมูลการสำรวจดังกล่าวเพื่อใช้ในการจัดอันดับด้านการศึกษาระดับนานาชาติอย่างแม่นยำ ซึ่งคาดว่าแนวโน้มอันดับของไทยจะดีขึ้น ส่งผลให้สะท้อนคุณภาพการศึกษาและสร้างความเชื่อมั่นในด้านการศึกษาไทยในสายตาของประชาคมโลก


 

ที่มา : https://citly.me/Ip7Oc