ทรัพยากรธรรมชาติ, บริการประชาชน, เกษตรกรรม
การขอใบอนุญาตให้ส่งออก ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า ในบัญชีแนบท้ายหมายเลข 2 และบัญชีแนบท้ายหมายเลข 3 ของอนุสัญญาฯ (CITES)
- ด้วยประเทศไทยได้ลงนามให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เมื่อปี พ.ศ.2526 จึงมีพันธะผูกพันในกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงกฎหมายภายในประเทศที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว โดยได้มีการควบคุมการส่งออกชนิดพันธุ์สัตว์ป่าในความคุ้มครองแห่งอนุสัญญาฯ ให้มีประสิทธิภาพ มีบทลงโทษต่อผู้ลักลอบส่งออกชนิดพันธุ์สัตว์ป่าดังกล่าว
- รัฐบาลไทยจึงได้ตราพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้มีการควบคุมการส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด (กลุ่มที่ 1 : สัตว์ป่าตามบัญชีแนบท้ายหมายเลข 2 และบัญชีแนบท้ายหมายเลข 3 ของอนุสัญญาฯ (CITES)) และการส่งออกตามความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าชนิดที่ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับรอง
- บัญชีแนบท้ายหมายเลข2 หมายถึง
- (ก) ชนิดพันธุ์ทุกชนิดซึ่งแม้ว่าในขณะนี้ยังมิได้อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์แต่อาจเกิดภาวะดังกล่าวได้ เว้นแต่จะมีข้อบังคับที่เข้มงวดควบคุมการค้าตัวอย่างพันธุ์ของชนิดพันธุ์นั้นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ประโยชน์ที่ไม่สอดคล้องกับความอยู่รอดของชนิดพันธุ์ดังกล่าว
- (ข) ชนิดพันธุ์อื่นๆ ซึ่งต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับนี้ด้วย เพื่อให้การควบคุมการค้าตัวอย่างพันธุ์ของบางชนิดพันธุ์ในข้อ (ก) ของวรรคนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- บัญชีแนบท้ายหมายเลข 3 หมายถึง ชนิดพันธุ์ทุกชนิดซึ่งภาคีใดภาคีหนึ่งได้กำหนดให้อยู่ภายใต้ข้อบังคับควบคุมในเขตอำนาจแห่งตน (มีกฎหมายคุ้มครองไว้) เพื่อประโยชน์ในการป้องกันหรือจำกัดการใช้ประโยชน์และต้องการความร่วมมือจากภาคีอื่นๆ ช่วยควบคุมการค้าชนิดพันธุ์ดังกล่าวด้วย
- ผู้ที่สามารถขอรับบริการการขออนุญาตให้ส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าในบัญชีแนบท้ายหมายเลข 2 และบัญชีแนบท้ายหมายเลข 3 ของอนุสัญญาฯ (CITES) ได้แก่ ประชาชนทั่วไป ชาวต่างชาติ ผู้ประกอบการภาคเอกชน/นิติบุคคล
- การส่งออกซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าในบัญชีแนบท้ายหมายเลข 2ของอนุสัญญาฯ (CITES) ต้องปฎิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
- การส่งออกดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ
- การได้มาซึ่งตัวอย่างชนิดพันธุ์ดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชของรัฐนั้น
- การขนส่งตัวอย่างมีชีวิตใดใด ได้เตรียมการและกระทำเป็นอย่างดีเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ภยันตรายต่อสุขภาพ หรือทารุณกรรม
- การส่งออกซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าในบัญชีแนบท้ายหมายเลข 3ของอนุสัญญาฯ (CITES) ต้องปฎิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
- การได้มาซึ่งตัวอย่างชนิดพันธุ์ดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชของรัฐนั้น
- การขนส่งตัวอย่างมีชีวิตใดใด ได้เตรียมการและกระทำเป็นอย่างดีเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ภยันตรายต่อสุขภาพ หรือทารุณกรรม
- ทั้งนี้ การพิจารณาอนุญาตเป็นอำนาจของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อได้รับการอนุญาตและลงนามในใบอนุญาตแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ได้รับอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต โดยใบอนุญาตฉบับจริง เจ้าหน้าที่จะจัดส่งไปยังด่านตรวจสัตว์ป่าที่ระบุในใบอนุญาต ผู้ได้รับอนุญาตต้องดำเนินการส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าผ่านด่านตรวจสัตว์ป่า ตามรายการชนิด และจำนวน ที่ระบุในใบอนุญาตให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ใบอนุญาตจะหมดอายุ และเมื่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าได้ดำเนินการตรวจสอบการส่งออกซึ่งซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าเรียบร้อยแล้ว ผู้ได้รับอนุญาตจะได้รับใบอนุญาตฉบับจริง
- หลักฐานการได้มาซึ่งซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้น ( สำเนา 1 ฉบับ ) ให้ผู้ขออนุญาต รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
- ใบสั่งสินค้า (Order) หรือใบกำกับสินค้า (Invoice) ( สำเนา 1 ฉบับ ) มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวในระบบของโครงการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามระบบอนุญาตนำเข้า ส่งออก และ นำผ่าน ตามอนุสัญญาไซเตส และให้ผู้ขออนุญาต รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
ค่าธรรมเนียม
- นำเข้าและส่งออก ซากและผลิตภัณฑ์ของสัตว์ป่า
- 1 ตัว ฉบับละ 50 บาท
- 2 ตัวขึ้นไป ฉบับละ 500 บาท
Post Views: 113