กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมสำรวจนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถอนทะเบียนร้าง ประจำปี 2568

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมสำรวจนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถอนทะเบียนร้าง ประจำปี 2568

          กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมสำรวจนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถอนทะเบียนร้าง ประจำปี 2568 เพื่อปรับฐานข้อมูลให้ถูกต้อง ป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกลวงประชาชน


 

 

          นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมสำรวจนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถอนทะเบียนร้าง ประจำปี 2568 โดยการถอนทะเบียนนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท) ร้าง คือ การที่นายทะเบียนขีดชื่อนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท) ออกจากทะเบียน เนื่องจากไม่ได้ทำการค้าขายหรือประกอบการงานใด ๆ โดยไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือบางรายจดทะเบียนเลิกแล้ว แต่ไม่ยื่นรายงานการชำระบัญชีต่อนายทะเบียน หรือไม่จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น ทำให้ฐานข้อมูลนิติบุคคลไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และทำให้เกิดความเสียหายจากการหลอกลวงสภาพอันแท้จริงของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท กฎหมายจึงให้อำนาจนายทะเบียนถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ทิ้งร้าง หรือเลิกประกอบกิจการและไม่ดำเนินกิจการแล้วให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทร้างต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1273/1 มาตรา 1273/2 และมาตรา 1273/3 และระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ.2561 ข้อ 106 ข้อ 107 ข้อ 108 ประกอบข้อ 104 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่

          การถอนทะเบียนร้างใช้ดำเนินการกับห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด แต่ไม่มีผลบังคับใช้กับบริษัทมหาชนจำกัด สมาคมการค้าและหอการค้า บุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนพาณิชย์ ทั้งนี้ การถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทร้างตามกฎหมายที่กล่าวถึงข้างต้นสามารถดำเนินการได้ 2 กรณี คือ

  1. กรณีมีมูลเหตุอันสมควรเชื่อว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ไม่ได้ประกอบการค้าขายหรือประกอบการงานแล้ว โดยไม่นำส่งงบการเงินนับแต่ปีปัจจุบันย้อนหลัง 3 ปีติดต่อกัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะส่งหนังสือฉบับที่ 1 ไปยังห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ที่เข้าข่ายจะถอนทะเบียนร้าง เพื่อสอบถามการประกอบการงาน โดยให้ชี้แจงภายใน 30 วันนับแต่วันที่ส่งหนังสือ เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนด นายทะเบียนจะออกประกาศว่าจะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน โดยลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่หนึ่งครั้ง และส่งหนังสือฉบับที่ 2 แจ้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นว่า กรมฯ จะขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้ว และเมื่อพ้นเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ส่งหนังสือบอกกล่าว นายทะเบียนก็จะออกคำสั่งขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1273/1 และมาตรา 1273/3
  2. กรณีมีมูลเหตุอันสมควรเชื่อว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเลิกกันแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ ไม่จัดทำรายงานการชำระบัญชีติดต่อกัน 3 ปี ไม่จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีภายใน 3 ปีนับแต่วันที่รับจดทะเบียนเลิก กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะส่งหนังสือฉบับที่ 1 ไปยังห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าข่ายจะถอนทะเบียนร้าง เพื่อให้ดำเนินการมีตัวผู้ชำระบัญชี หรือยื่นรายงานการชำระบัญชี หรือจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี แล้วแต่กรณี โดยให้ดำเนินการดังกล่าวภายใน 180 วันนับแต่วันที่ส่งหนังสือ เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนด นายทะเบียนจะออกประกาศว่าจะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน โดยลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่หนึ่งครั้ง และส่งหนังสือฉบับที่ 2 แจ้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นว่า กรมฯจะขีดชื่อออก จากทะเบียนแล้ว และเมื่อพ้นเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ส่งหนังสือบอกกล่าว นายทะเบียนก็จะออกคำสั่งขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1273/2 และมาตรา 1273/3

          อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า เมื่อนายทะเบียนมีคำสั่งขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียนแล้ว ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นจะสิ้นสภาพนิติบุคคลทันที แต่ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการและผู้ถือหุ้น ยังมีอยู่เหมือนเดิม และเรียกบังคับได้เสมือนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นยังไม่ได้สิ้นสภาพนิติบุคคล แต่หากต้องการให้ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทร้างนั้นกลับคืนสู่ทะเบียน ผู้มีส่วนได้เสีย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วน บริษัท ผู้ถือหุ้น หรือเจ้าหนี้ที่ได้รับความเสียหายโดยไม่เป็นธรรมจากการที่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อมีคำสั่งให้จดชื่อ ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทกลับคืนเข้าสู่ทะเบียนได้ ภายใน 10 ปีนับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน และเมื่อศาลมีคำสั่งแล้วให้นำคำสั่งศาลมายื่นต่อนายทะเบียนเพื่อมีคำสั่งจดชื่อคืนสู่ทะเบียน โดยให้กลับคืนมาในฐานะอันใกล้ที่สุด กับฐานะเดิมเสมือนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นไม่ได้ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนเลย

          ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนนิติบุคคลที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและมีสถานะร้างแล้วรวมทั้งสิ้นจำนวน 89,856 ราย โดยแบ่งเป็นปี 2565 จำนวน 27,915 ราย ปี 2566 จำนวน 29,006 ราย และปี 2567 จำนวน 32,935 ราย ทำให้ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่ยังดำเนินการอยู่รวมทั้งสิ้น 928,292 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568)

 


 

ที่มา :

  • https://shorturl.asia/KbDiO
  • https://shorturl.asia/01FdG