ปภ. แจ้งเตือน 62 จังหวัด เฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 12 – 14 เม.ย. 68
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้ง 62 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 12 – 14 เมษายน 2568 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัดในระยะนี้
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (83/2568) ลงวันที่ 9 เมษายน 2568 เวลา 17.00 น. แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่ โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 12 – 14 เมษายน 2568 ดังนี้
- ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- จังหวัดเชียงใหม่
- จังหวัดเชียงราย
- จังหวัดลำพูน
- จังหวัดลำปาง
- จังหวัดพะเยา
- จังหวัดแพร่
- จังหวัดน่าน
- จังหวัดอุตรดิตถ์
- จังหวัดตาก
- จังหวัดสุโขทัย
- จังหวัดกำแพงเพชร
- จังหวัดพิษณุโลก
- จังหวัดพิจิตร
- จังหวัดเพชรบูรณ์
- จังหวัดนครสวรรค์
- จังหวัดอุทัยธานี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่
- จังหวัดเลย
- จังหวัดหนองคาย
- จังหวัดบึงกาฬ
- จังหวัดหนองบัวลำภู
- จังหวัดอุดรธานี
- จังหวัดสกลนคร
- จังหวัดนครพนม
- จังหวัดชัยภูมิ
- จังหวัดขอนแก่น
- จังหวัดมหาสารคาม
- จังหวัดกาฬสินธุ์
- จังหวัดมุกดาหาร
- จังหวัดร้อยเอ็ด
- จังหวัดยโสธร
- จังหวัดอำนาจเจริญ
- จังหวัดนครราชสีมา
- จังหวัดบุรีรัมย์
- จังหวัดสุรินทร์
- จังหวัดศรีสะเกษ
- จังหวัดอุบลราชธานี
- ภาคกลาง 25 จังหวัด ได้แก่
- จังหวัดกาญจนบุรี
- จังหวัดราชบุรี
- จังหวัดสุพรรณบุรี
- จังหวัดชัยนาท
- จังหวัดสิงห์บุรี
- จังหวัดอ่างทอง
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จังหวัดลพบุรี
- จังหวัดสระบุรี
- จังหวัดนครนายก
- จังหวัดปราจีนบุรี
- จังหวัดสระแก้ว
- จังหวัดฉะเชิงเทรา
- จังหวัดชลบุรี
- จังหวัดระยอง
- จังหวัดจันทบุรี
- จังหวัดตราด
- จังหวัดเพชรบุรี
- จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- จังหวัดปทุมธานี
- จังหวัดนนทบุรี
- จังหวัดนครปฐม
- จังหวัดสมุทรสาคร
- จังหวัดสมุทรสงคราม
- จังหวัดสมุทรปราการ
- ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 62 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยติดตามสภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์ และปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างเคร่งครัด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้
ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถแจ้งเหตุและข้อความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป