ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
บขส. เปิดเผยภาพรวมการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 8 – 10 เม.ย. 64
บขส. เปิดเผยภาพรวมการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 8 – 10 เมษายน 2564 มีผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนากว่า 1.5 แสนคน พร้อมสั่งคุมเข้มมาตรการด้านความปลอดภัย และร่วมรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด”
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยตัวเลขผู้โดยสารเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ตั้งแต่วันที่ 8-10 เมษายน 2564 บขส. ได้จัดรถบขส.,รถร่วม,รถตู้ (เที่ยวไป) จำนวน 11,634 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร จำนวน 158,287 คน ส่วนเที่ยวกลับ ได้จัดรถบขส.,รถร่วม,รถตู้ จำนวน 11,108 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร จำนวน 116,152 คน น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่งดเดินทาง
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีประชาชนทยอยคืนตั๋วโดยสาร โดยข้อมูลล่าสุดของวันที่ 10 เมษายน 2564 มีผู้โดยสารขอคืนตั๋วเพิ่มอีก 4,138 ใบ ทำให้ยอดรวมการคืนตั๋วโดยสารสะสมอยู่ที่ 13,460 ใบ คิดเป็น 22.73% ของจำนวนที่นั่งที่มีการจำหน่ายตั๋วเดินทางระหว่างวันที่ 8-18 เมษายน 2564 โดยเส้นทางภาคเหนือ มีผู้โดยสารคืนตั๋วมากที่สุด รองลงมาภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามลำดับ
“แม้ว่าจะมีผู้โดยสารทยอยคืนตั๋ว แต่ยังมีผู้โดยสารมาซื้อตั๋วเดินทางอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทำให้บรรยากาศการเดินทางในช่วงสงกรานต์ปีนี้ไม่เงียบเหงานัก” นายสัญลักข์ กล่าว
สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ บขส. ได้กำชับพนักงานขับรถเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากในระยะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เช่น ขับรถด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง เป็นต้น
นอกจากนี้ ได้สั่งกำชับไปยังนายสถานีเดินรถและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เพิ่มการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารและบนรถโดยสาร ตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมทั้งขอให้ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารและประกาศเข้าพื้นที่ของแต่ละจังหวัดก่อนออกเดินทางด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส.
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/40899
