ดีอี เตือน ข่าวปลอม ไทย–กัมพูชา ระบาดหนัก ขอประชาชนอย่าเชื่อ-แชร์ข้อมูลเท็จ

ดีอี เตือน ข่าวปลอม ไทย–กัมพูชา ระบาดหนัก ขอประชาชนอย่าเชื่อ-แชร์ข้อมูลเท็จ

          กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เตือน ข่าวปลอม ไทย–กัมพูชา ระบาดหนัก ขอประชาชนอย่าเชื่อ-แชร์ข้อมูลเท็จ ตามที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อความและภาพ อ้างอิงถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชานั้น พบว่าขณะนี้มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อให้ประชาชนสนใจ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ตื่นตระหนก วิตกกังวล และสร้างความสับสนในสังคมเป็นวงกว้าง จึงเตือนว่า เรื่องเขตแดนเป็นประเด็นอ่อนไหว การแชร์ข่าวปลอม รวมถึงภาพที่สร้างจาก AI หรือข้อความเท็จ อาจยิ่งสร้างความตึงเครียด พร้อมขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อหรือแชร์ และติดตามข่าวจากแหล่งทางการเท่านั้น ทั้งนี้ การเผยแพร่ข่าวปลอมอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


 

 

ดีอี เตือน ข่าวปลอม “ไทย–กัมพูชา” ระบาดหนัก ขอประชาชนอย่าเชื่อ-แชร์ข้อมูลเท็จ ย้ำรับข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการเท่านั้น

 

          นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อความและภาพ อ้างอิงถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชานั้น พบว่าขณะนี้มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อให้ประชาชนสนใจ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ตื่นตระหนก วิตกกังวล และสร้างความสับสนในสังคมเป็นวงกว้าง

 

          กระทรวงดีอี โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti-Fake News Center) ได้ตรวจสอบพบว่ามีข่าวที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวมากถึง 33 ข่าว และเป็นข่าวปลอมที่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐแล้ว 9 ข่าวด้วยกัน โดยพบว่าประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุดคือ ข่าวปลอมที่อ้างว่า “รัฐบาลไทยเตรียมประกาศปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชา 6 แห่ง” ซึ่งไม่เป็นความจริงและเป็นการสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในวงกว้าง

 

          ทั้งนี้จากการประสานงานตรวจสอบร่วมกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และหน่วยงานชายแดนที่เกี่ยวข้องแล้ว ยืนยันว่า ทุกด่านยังเปิดให้บริการตามปกติ และตรวจสอบพบว่าเป็นการสร้างข้อมูลปลอม โดยได้ทำการปิดกั้นการเผยแพร่แล้ว

 

          “เรื่องเขตแดนไทย–กัมพูชาเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของคนทั้ง 2 ประเทศ การแชร์ข่าวปลอมยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นของการทำภาพ AI ที่เผยแพร่เพื่อยั่วยุให้เกิดความรุนแรง หรือประเด็นการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ รวมทั้งกรณีข่าวลือปลดแม่ทัพภาคที่ 3 ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนรับข้อมูลจากช่องทางทางการและสื่อหลักที่น่าเชื่อถือเท่านั้น” รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าว

 

          อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนทุกคน ก่อนเชื่อหรือแชร์ข้อมูลใด ๆ ควรตรวจสอบว่าแหล่งข่าวเป็นหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลกับช่องทางหลักของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย หรือ โทรสายด่วน 1111 ตลอด 24 ชม. หากพบโพสต์ ข้อความต้องสงสัย สามารถส่งลิงก์หรือภาพหลักฐานเพื่อตรวจสอบ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอม และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

          สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)
| Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

 


ที่มา : Facebook : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม