ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
กรมควบคุมโรค เปิดเผยการฉีดวัคซีนโควิด 19 ภายในประเทศดำเนินการได้เร็วกว่าเป้าหมาย
กรมควบคุมโรค เปิดเผยการฉีดวัคซีนโควิด 19 ภายในประเทศดำเนินการได้เร็วกว่าเป้าหมาย พร้อมเร่งฉีดอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุม
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้จำนวนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 12 เมษายน 2564 มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วจำนวน 505,215 ราย และมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วจำนวน 73,317 ราย รวม 578,532 โดส กระจายไปยัง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่ฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ร้อยละ 40.41 บุคลากรสาธารณสุข ร้อยละ 40.22 เจ้าหน้าที่อื่นๆ ประชาชนที่มีโรคประจำตัวและประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปตามลำดับ ซึ่งเป็นการฉีดได้เร็วกว่าเป้าหมายที่กำหนด ส่วนวัคซีน Sinovac ที่มาถึงไทยเพิ่มอีก 1 ล้านโดส เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจสอบคุณภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอเพียงเอกสารจากประเทศจีนซึ่งจะต้องส่งมาให้อย่างครบถ้วน จากนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะรายงานประสิทธิภาพ พร้อมเร่งกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมต่อไปโดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนยาและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อยืนยันว่ามีเพียงพอ รวมทั้งมีห้องปฏิบัติการตรวจโควิด 19 ทุกจังหวัด รวม 277 แห่ง ตรวจได้ 81,700 ตัวอย่างต่อวัน
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด 19 ระลอกใหม่ในเดือนเมษายนนี้ด้วยว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้จำนวน 965 ราย ประชาชนทุกคนยังต้องเฝ้าระวังตนเองอย่างต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น และลดกิจกรรมการรวมกลุ่ม เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งนี้จากระบบบริการ การสอบสวนควบคุมโรค และการค้นหาเชิงรุกในชุมชน ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในลักษณะค่อนข้างชะลอตัว โดยกรุงเทพและเชียงใหม่ เป็น 2 จังหวัดที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 100 รายต่อวัน จากการเชื่อมโยงสถานบันเทิง ส่วนนราธิวาสที่พบผู้ติดเชื้อในเรือนจำ ขณะนี้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ขณะที่จังหวัดอื่นๆ จะต้องเร่งสอบสวนหาสาเหตุจากการแพร่ระบาดต่อไปเพื่อให้อยู่ในการควบคุม หากพบผู้ติดเชื้อจะต้องรีบหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและกักตัว 14 วันทันที
ส่วนการคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในอีก 1 เดือนข้างหน้า หากทุกคนช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ จะลดผู้ติดเชื้อใหม่เหลือประมาณ 500-600 คนต่อวัน หากมีการทำงานที่บ้านเพิ่มขึ้นจะลดผู้ติดเชื้อใหม่เหลือไม่ถึง 400 คนต่อวัน ส่วนการล็อกดาวน์จะเป็นทางเลือกสุดท้าย หากเกิดกรณีร้ายแรงจะมีการล็อกดาวน์เฉพาะจุด จะส่งผลให้ลดผู้ติดเชื้อใหม่เหลือไม่ถึง 100 คนต่อวัน
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210413135533515
