ราชกิจจานุเบกษา ประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นวันละ 400 บาท เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2568

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นวันละ 400 บาท เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2568

        ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 14) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติม 



 

 

         วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 14) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป


สาระสำคัญ คือ การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 3 กลุ่ม ได้แก่

  1. กรุงเทพมหานคร ทุกประเภทกิจการ
  2. ในประเภทกิจการโรงแรมตามกฎหมาย (โรงแรมประเภท 2, 3, 4) ทั่วประเทศ โดยยกเว้นโรงแรมประเภทที่ 1 เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะห้องพักและมีห้องพักไม่เกิน 50 ห้อง
  3. ประเภทกิจการสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการทั่วประเทศ ที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มจำหน่าย เช่น ไนต์คลับ ผับ บาร์ อาบอบนวด คาราโอเกะ เป็นต้น

         นายบุญสงค์กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้ เป็นผลจากการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ นายจ้าง และลูกจ้าง บนหลักความเสมอภาคและรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย เพื่อให้การประกอบธุรกิจเดินหน้าต่อได้ พร้อมกับให้แรงงานมีรายได้ที่เพียงพอและเหมาะสม

         โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานทั่วไปให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ควบคู่กับการรักษาสมดุลในการประกอบธุรกิจของนายจ้าง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน


รายละเอียดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ 1 กรกฎาคม 2568 ได้แก่:

  1. ประเภทกิจการโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม เฉพาะโรงแรมประเภท 2 โรงแรมประเภท 3 และโรงแรมประเภท 4 ในท้องที่ทุกจังหวัด
  2. ประเภทกิจการสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ ในท้องที่ทุกจังหวัด
  3. ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ภูเก็ต ระยอง และสุราษฎร์ธานี เฉพาะอำเภอเกาะสมุย

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 380 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และสงขลา เฉพาะอำเภอหาดใหญ่

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 372 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 359 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 358 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 357 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ (ยกเว้นอำเภอเมืองเชียงใหม่) ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 356 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดลพบุรี

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 355 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดนครนายก สุพรรณบุรี หนองคาย 

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 354 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดกระบี่ ตราด

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 352 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ตาก นครพนม บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา พิษณุโลก มุกดาหาร สกลนคร สงขลา (ยกเว้นอำเภอหาดใหญ่) สุราษฎร์ธานี (ยกเว้นอำเภอเกาะสมุย) สระแก้ว และอุบลราชธานี

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 351 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดชุมพร เพชรบุรี และสุรินทร์

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 350 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ ยโสธร และลำพูน

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 349 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช บึงกาฬ เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 348 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดชัยนาท ชัยภูมิ พัทลุง สิงห์บุรี และอ่างทอง

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 347 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สตูล สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 345 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดตรัง น่าน พะเยา และแพร่

กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 337 บาท

  • ในท้องที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา

         นายบุญสงค์ ย้ำว่า การปรับค่าแรงครั้งนี้ เป็นการดำเนินการบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อแรงงานไทยทุกคน และพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับแรงงานไทยอย่างต่อเนื่อง

 

 


 

 

ที่มา :