โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 ตั้งแต่บัดนี้ – 30 ก.ย 68

ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 ตั้งแต่บัดนี้ – 30 ก.ย 68

เงื่อนไขการสมัครเข้าร่วม Phase 2

  1. ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการใน Phase 1 แล้ว
    หากพิจารณาแล้วว่ามีสัญญาสินเชื่ออื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติตาม Phase 2 สามารถสมัครเข้า Phase 2 ได้เพิ่มเติม
  2. ลูกหนี้ที่ไม่เข้าเงื่อนไข Phase 1
    แต่มีคุณสมบัติตาม Phase 2 สามารถสมัครเข้า Phase 2 ได้เช่นกัน

กำหนดการลงทะเบียน

    • ตั้งแต่บัดนี้ – 30 กันยายน 2568

ช่องทางลงทะเบียน

    1. เว็บไซต์แบงค์ชาติ http://www.bot.or.th/khunsoo
    2. สาขาของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ

หากมีข้อสงสัยในการลงทะเบียน สามารถติดต่อได้ที่

    • สาขา หรือ Call Center ของเจ้าหนี้ที่ลงทะเบียน กด 99
    • สายด่วนแบงก์ชาติ โทร. 1213
    • สามารถลงทะเบียนได้ที่ คลิกที่นี่  และที่สาขาของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ

มาตรการ "จ่ายตรง คงทรัพย์"

เหมาะกับใคร

ลูกหนี้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

  1. หนี้บ้าน / รถ / มอเตอร์ไซค์ / SMEs
    • วงเงินรวมต่อประเภทสินเชื่อต่อสถาบันการเงิน
    • บ้าน / บ้านแลกเงิน ไม่เกิน 5 ล้านบาท
    • เช่าซื้อ / จํานําทะเบียนรถยนต์ ไม่เกิน 8 แสนบาท
    • เช่าซื้อ / จํานําทะเบียนรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
    • สินเชื่อ SMEs (ทั้งบุคคลและนิติบุคคล / มีหรือไม่มีหลักประกัน) ไม่เกิน 5 ล้านมาก
  2. เป็นสัญญาสินเชื่อที่ทำก่อนวันที่ 1 ม.ค. 67
  3. มีสถานะลูกหนี้ ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
    • กลุ่มที่ 1: ไม่ค้างชำระ หรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน นับจากวันครบทําหนดชำระ โดยมีเงื่อนไข
      • 1) เคยมีประวัติการค้างชำระ” และ
      • 2) เคยปรับโครงสร้างหนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 65
        *ลูกหนี้ที่เคยมีประวัติค้าง 1-30 วัน ให้ดูวันค้างตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 หรือ
    • กลุ่มที่ 2: ค้างชำระเกิน 30 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ

หมายเหตุ: สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต หากมีหนี้บ้าน หรือรถที่เข้าเงื่อนไขมาตรการข้างต้น สามารถพิจารณาเข้า มาตรการรวมหนี้ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เจ้าหนี้รับได้ โดยวงเงินรวมต้องไม่เกินตามที่กำหนดไว้ (ยกเว้นการรวมหนี้กับสินเชื่อบ้านของ ธอส.)

เจ้าหนี้ที่เข้าร่วม

วิธีผ่อนจ่าย

  • ลดค่างวด โดย
    • ปีที่ 1 ผ่อนต่อเดือน 50% ของค่างวดเดิม
    • ปีที่ 2 ผ่อนต่อเดือน 70% ของค่างวดเดิม
    • ปีที่ 3 ผ่อนต่อเดือน 90% ของค่างวดเดิม
    • ให้ลูกหนี้ชำระ 50% 70% และ 90% ของค่างวดเดิม ตามลำดับ
  • ค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด และดอกเบี้ยตั้งพักไว้ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะยกเว้นดอกเบี้ยทั้งหมด เมื่อลูกหนี้ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข
  • ลูกหนี้สามารถติดต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระมากกว่าค่างวดขั้นต่ำที่กำหนดไว้ได้ เพื่อตัดเงินต้นเพิ่มและปิดจบหนี้ได้ไวขึ้น

อัตราดอกเบี้ย

  • พักดอกเบี้ย ตลอด 3 ปี
    ยกเว้นให้เมื่อทําได้ตามเงื่อนไข

เงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการ

  • ลูกหนี้รายย่อยและ SMEs ไม่สามารถก่อหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคใหม่ในระยะเวลา 12 เดือนแรกที่เข้าร่วมมาตรการ อย่างไรก็ตาม หากลูกหนี้จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ เจ้าหนี้สามารถให้สินเชื่อเพิ่มเติมได้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้
  • จะถูกรายงานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) ว่าเข้ามาตรการ
  • หากลูกหนี้ชำระไม่ได้ตามเงื่อนไขของสัญญาหรือก่อหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคใหม่ก่อนระยะเวลา 12 เดือน จะต้องออกจากมาตรการและชำระดอกเบี้ยที่พักไว้
  • หากสัญญาสินเชื่อมีผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องให้ความยินยอม และลงนามในสัญญาค้ำประกันใหม่

มาตรการ "จ่าย ปิด จบ"

เหมาะกับใคร

ลูกหนี้ NPL บุคคลธรรมดา ณ 31 ต.ค. 67
หนี้บุคคลธรรมดา สถานะค้างชำระเกินกว่า 90 วัน (หนี้เสีย) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567

  1. กลุ่มที่ 1: ภาระหนี้ ไม่เกิน 5,000 บาท/บัญชี
    –  ทุกประเภทสินเชื่อ
    –  ไม่ต้องพิจารณาวงเงินสินเชื่อ
  2. กลุ่มที่ 2: ภาระหนี้ ไม่เกิน 10,000 บาท/บัญชี
    –  สําหรับสินเชื่อไม่มีหลักประกัน
  3. กลุ่มที่ 3: ภาระหนี้ไม่เกิน 30,000 บาท/บัญชี
    –  สำหรับสินเชื่อมีหลักประกัน ที่ถูกบังคับหลักประกันแล้ว เช่น หลักประกันถูกยึด หรือยายทอยถลาดแล้ว ภายใต้วงเงินสินเชื่อที่กำหนด ได้แก่
    • หนี้บ้าน/บ้านแลกเงิน/SMEs บุคคลธรรมดา ไม่เกิน 5 ล้านบาท/บัญชี
    • หนี้เช่าซื้อ/จำนำทะเบียนรถยนต์ ไม่เกิน 8 แสนบาท/บัญชี
    • หนี้เช่าซื้อ/จํานําทะเบียนรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/บัญชี

เจ้าหนี้ที่เข้าร่วม

วิธีผ่อนจ่าย

  • จ่ายบางส่วน เพื่อปิดบัญชี

มาตรการ "จ่าย ตัด ต้น" 

เหมาะกับใคร

ลูกหนี้ NPL บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ณ 31 ต.ค. 67

  1. เป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล
  2. เป็นหนี้ที่ทําสัญญา ก่อน 1 ม.ค. 67
  3. สถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 ต้องครบทั้ง 2 ข้อ
    3.1 ค้างชำระเกิน 90 วัน (นับจากวันครบทําหนดชำาระ) และ
    3.2 มียอดหนี้ ไม่เกิน 50,000 บาท ต่อบัญชี

เจ้าหนี้ที่เข้าร่วม

รายละเอียดมาตรการ

    • ปรับหนี้ให้ผ่อนชำระคืนเป็นงวด (term loan)
    • ลดค่างวด โดยจ่ายค่างวดต่อเดือนขั้นต่ำ 2% ของเงินต้นคงค้างก่อนเข้ามาตรการ
    • ค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดต้นทั้งหมด และดอกเบี้ยตั้งพักไว้ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยยกเว้นดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งหมด เมื่อลูกหนี้ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข

          * ลูกหนี้สามารถติดต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระมากกว่า % ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ได้ เพื่อตัดเงินต้นเพิ่มและปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น

วิธีผ่อนจ่าย

  • ผ่อนต่อเดือนที่ 2% ของยอดเงินต้นคงค้าง เป็นเวลา 3 ปี
    (ปรับหนี้เป็น term loan)

อัตราดอกเบี้ย

  • พักดอกเบี้ย ตลอด 3 ปี
    ยกเว้นให้เมื่อทําได้ตามเงื่อนไข

เงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการ

  • ลูกหนี้รายย่อยและ SMEs ไม่สามารถก่อหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคใหม่ในระยะเวลา 12 เดือนแรกที่เข้าร่วมมาตรการ อย่างไรก็ตาม หากลูกหนี้จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ เจ้าหนี้สามารถให้สินเชื่อเพิ่มเติมได้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้
  • จะถูกรายงานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) ว่าเข้ามาตรการ
  • หากลูกหนี้ชำระไม่ได้ตามเงื่อนไขของสัญญาหรือก่อหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคใหม่ก่อนระยะเวลา 12 เดือน จะต้องออกจากมาตรการและชำระดอกเบี้ยที่พักไว้
  • หากสัญญาสินเชื่อมีผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องให้ความยินยอม และลงนามในสัญญาค้ำประกันใหม่