ขออนุญาตตัดไม้

การตัดไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562

พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ประกาศวันที่ 16 เมษายน 2562)

          สาระสำคัญของพระราชบัญญัติ คือเกษตรกร สามารถทำไม้หวงห้ามประเภท ก. ซึ่งได้แก่ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้เก็ดแดง ไม้อีเม่ง ไม้พะยุงแกลบ ไม้กระพี้ ไม้แดงจีนไม้ขะยุง ไม้ชิก ไม้กระซิก ไม้กระซิบ ไม้พะยูง ไม้หมากพลูตั๊กแตน ไม้กระพี้เขาควาย ไม้เก็ดดํา ไม้อีเฒ่า และไม้เก็ดเขาควาย ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

         การทำไม้ หมายถึง การปลูก การตัด ฟัน กาน โค่น ลิด เลื่อย ผ่า ถาก ทอน ขุด

หมายเหตุ : ไม้ประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากประกาศสามารถทำไม้ และเคลื่อนย้ายไม้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าแต่อย่างใด

พระราชบัญญัตินี้แบ่งที่ดินออกเป็น 2 ประเภท

1.การปลูกไม้ในที่ดินที่มีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

          หากเกษตรกรปลูกไม้ในที่ดินประเภทนี้สามารถ ปลูก ตัด เคลื่อนย้ายไม้ และขายไม้ ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การนำเคลื่อนย้ายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 สามารถทำการเคลื่อนย้ายได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่เมื่อนำเคลื่อนย้ายไปยังท้องที่จังหวัดอื่นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจเรียกตรวจสอบการได้ของไม้ และแหล่งที่มาของไม้ หากพบพิรุธในการนำเคลื่อนย้ายว่าไม้นั้นอาจได้มาจากการลักลอบตัดจากในป่า สามารถอายัดไม้ไว้เพื่อตรวจสอบก่อนได้ ซึ่งผู้เคลื่อนย้ายไม้สามารถ แสดงแหล่งที่มาของโดยปฏิบัติได้ 2 วิธีคือ

  • ให้ผู้ใหญ่บ้านทำบันทึก หรือรับรองการเคลื่อนย้ายไม้ของเกษตรกร โดยให้ผู้ใหญ่บ้านลงชื่อกำกับในหนังสือ พร้อมทั้งถ่ายรูปทั้งก่อนและหลังตัดไม้ ประกอบการนำเคลื่อนที่
  • ติดต่อสถานีตำรวจในพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้ว่าตัดไม้มาจากที่ดินของเกษตรกรรายใด พร้อมทั้งถ่ายรูปทั้งก่อนและหลังตัดไม้ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น ประกอบการนำเคลื่อนที่

2.การปลูกไม้ที่ดินที่รัฐอนุญาตให้ใช้ประโยชน์

     (เช่น ที่ดิน ส.ป.ก ,ที่ดิน ส.ท.ก. ,ที่ดิน กสน.,ที่ดิน นค.3 หรือที่ดินราชพัสดุ เป็นต้น) ถือว่าไม่เป็นไม้หวงห้าม ก็ต่อเมื่อมีประกาศของรัฐมนตรี แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีประกาศรองรับ อยู่ระหว่างการจัดทำประกาศ หากเกษตรกรปลูกไม้ในที่ดินดังกล่าวจะต้องขออนุญาตตัดและเคลื่อนย้าย โดยสามารถทำได้ 2 วิธีคือ

  • ขออนุญาตตัดตาม พรบ.ป่าไม้ (กรณีเป็นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือปลูกไม้จำนวนไม่มาก)
  • ขออนุญาตตัดตาม พรบ.สวนป่า คือขึ้นทะเบียนสวนป่า และแจ้งตัด และขอนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ตามปกติ

การออกหนังสือรับรองไม้

หนังสือรับรองไม้ คือ หนังสือที่รับรองว่าแหล่งที่มาของไม้มาจากไหน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  • หนังสือรับรองไม้ของเกษตรกรผู้ปลูก ตามมาตรา 18/1 หนังสือรับรองไม้เป็นหนังสือที่รับรองว่าแหล่งที่มาของไม้มาจากไหน (ซึ่งหนังสือรับรองไม้นี้ สามารถนำไปเป็นเอกสารประกอบการเคลื่อนย้ายไม้ได้)
  • หนังสือรับรองไม้เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ตามมาตรา 18/2

ซึ่งหนังสือรับรองไม้ 2 ประเภทนี้ ต้องรอระเบียบระเบียบที่จะประกาศใช้เกี่ยวกับเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง และค่าธรรมเนียมอีกครั้ง

การเปิดระบบลงทะเบียนไม้มีค่าผ่านเว็บไซต์

  • ระบบนี้จะไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นระบบที่ให้เกษตรกรลงทะเบียนเพื่อยืนยันตนเอง หรือยืนยันความเป็นเกษตรกร ที่ปลูกไม้หวงห้ามในที่ดินกรรมสิทธิ
  • กรมป่าไม้ เปิดระบบลงทะเบียนไม้มีค่า ผ่านเว็บไซต์ระบบจัดการป่าอย่างยั่งยืน http://etree.forest.go.th
  • เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเกี่ยวกับ
    • การปลูก
    • การตัด
    • การเคลื่อนย้ายไม้
    • การขายไม้
    • การรับรองไม้

          โดยเฉพาะที่ดินกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองตามประมวลกฏหมายที่ดิน เช่น นส3 นส3ก โฉนด สค1 เป็นต้น

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข

  • เจ้าของที่ดินที่มีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายจะตัดไม้ในที่ดินของตนเองได้ทุกชนิดโดยไม่ต้องขออนุญาต
  • ยกเว้นไม้สัก และไม้ยางนาเพียง 2 ชนิดเท่านั้นที่ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ก่อน เพราะกฎหมายป่าไม้ พ.ศ. 2484 กำหนดไว้ว่า “ไม้สัก ไม้ยางนา ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดก็เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.”
  • ส่วนไม้ชนิดอื่นที่มีชื่ออยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม (จำนวน 158 ชนิด)  จะเป็นไม้หวงห้ามเฉพาะไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าเท่านั้น
  • ถ้าขึ้นอยู่ในที่ดินที่บุคคลมีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายย่อมไม่เป็นไม้หวงห้าม
  • การตัดฟันไม้ (ที่มิใช่ไม้สักไม้ยางนา) ในที่ดินของตนเองจึงไม่ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
  • และการจะขออนุญาตตัดไม้สักและไม้ยางนา เพื่อการค้าหรือเพื่อใช้สอยส่วนตัวได้นั้นจะต้องนำที่ดินที่มีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิไปขึ้นทะเบียนสวนป่าก่อนจึงจะขออนุญาตตัดไม้สักและไม้ยางนาได้

เกร็ดความรู้

  • บทกำหนดโทษ ในการตัดไม้หวงห้ามประเภท ก. ไม้สักและไม้ยางนา โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับความผิด
    • ทำไม้ เจาะ สับ เผา หรือทำอันตรายไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต
    • ตัด โค่นต้นยวนผึ้งหรือต้นไม้ที่ผึ้งจับทำรังอยู่ หรือทำอันตรายแก่ต้นไม้โดยไม่จำเป็นในการเก็บหารวงผึ้ง ในท้องที่ที่กำหนดรวงผึ้งเป็นของป่าหวงห้าม
  • ถ้ากระทำผิดเกี่ยวกับไม้สัก ไม้ยาง หรือไม้หวงห้ามประเภท ข. หรือไม้อื่นรวมกันเกิน 20 ต้นหรือท่อน หรือรวมปริมาตรไม้เกิน 4 ลูกบาศก์เมตร หรือไม้ที่ได้แปรรูปแล้วรวมปริมาตรไม้เกิน 2 ลูกบาศก์เมตร โทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 200,000 บาท