หมวดทั่วไป / เงื่อนไขการใช้สิทธิ์
1. เรื่องการลงทะเบียน
มี 2 ประเภท ได้แก่ 1) บัตรแรบบิท และ 2) บัตร EMV Contactless
1) บัตรแรบบิท
- คือ บัตรสมาร์ทการ์ดแบบเติมเงิน ที่ใช้สำหรับชำระค่าโดยสาร ในการเดินทางรถไฟฟ้า
- สามารถรองรับการเดินทาง ในรถไฟฟ้าสายดังต่อไปนี้
- รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (สนามกีฬาแห่งชาติ – บางหว้า)
- รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน (คูคต- การเคหะ)
- รถไฟฟ้าสายสีทอง (กรุงธนบุรี – คลองสาน)
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง)
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ศูนย์ราชการนนทบุรี – มีนบุรี)
2) บัตs EMV Contactless
- คือ บัตรมาตรฐาน EMV ที่มีสัญลักษณ์ contactless ที่สามารถใช้แตะเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการได้
- บัตร EMV สามารถใช้แตะเดินทางกับรถไฟฟ้าได้เลย ปัจจุบันรองรับ
- บัตรเครดิต (Credit) Visa หรือ Mastercard ทุกธนาคาร และ UnionPay (เฉพาะธนาคารกรุงเทพ, ICBC, AEON และ KTC)
- บัตรเดบิต (Debit) Visa หรือ Mastercard ธนาคารกรุงไทย, UOB, กรุงศรีอยุธยา, ไทยพาณิชย์ และ กสิกรไทย
- บัตรเติมเงิน (Prepaid) Visa Mastercard ได้แก่ MRT EMV Card และ Mangmoom EMV
- สามารถรองรับการเดินทาง ในรถไฟฟ้าสายต่อไปนี้
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง)
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ศูนย์ราชการนนทบุรี – มีนบุรี)
- รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ท่าพระ – เตาปูน – หลักสอง)
- รถไฟฟ้าสายสีม่วง (คลองบางไผ่ – เตาปูน)
- รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม/อ่อน (สถานีกลางกรุงเทพฯ – รังสิต)
- รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม/อ่อน (สถานีกลางกรุงเทพฯ – ตลิ่งชัน)
- รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (พญาไท – สนามบินสุวรรณภูมิ)
- สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางบนระบบรถไฟฟ้าระบบใดระบบหนึ่ง ที่ไม่ต้องเปลี่ยนสายและเปลี่ยนบัตรโดยสาร ไม่จำเป็นต้องทะเบียนบัตรทั้ง 2 ใบ
- ผู้โดยสารสามารถเลือกลงทะเบียนเฉพาะบัตรใดบัตรหนึ่ง
- หากมีความประสงค์จะผูกบัตรเพิ่มเติมในอนาคตสามารถดำเนินการผ่านแอปฯ ทางรัฐได้ด้วยตนเอง
หมายเหตุ: ในกรณีที่ผูกบัตรโดยสารประเภทใดประเภทหนึ่งไปแล้ว หากต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารเท่านั้น เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์
- การลงทะเบียนก่อนวันเริ่มมาตรการ จะใช้งานได้เมื่อมีการกำหนดวันเริ่มมาตรการจากภาคนโยบายภาครัฐ
- ทั้งนี้ หากลงทะเบียนภายหลังจากเริ่มมาตรการแล้ว เมื่อตรวจสอบยืนยันบัตรแล้ว เริ่มใช้งานได้ทันที
- เพื่อจำกัดสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น
- เพื่อให้รัฐเห็นข้อมูลการใช้งานจริง เพื่อจัดระบบจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ให้บริการแต่ละสาย
- เพื่อยืนยันว่าบัตรโดยสารทุกใบของผู้ลงทะเบียนเป็นคนเดียวกัน จะได้คิดราคารวมทุกสาย 20 บาท
- หากไม่ลงทะเบียนจะต้องชำระค่าโดยสารในอัตราปกติ
- สำหรับผู้ที่ใช้งานแอปฯ ทางรัฐครั้งแรก ต้องยืนยันตัวตนบนแอปฯ ทางรัฐ ผ่านช่องทางที่กำหนดก่อน โปรดศึกษาขั้นตอนที่นี่: https://ทางรัฐ.com/user-guide-2/
- ผู้ที่ลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐและยืนยันตัวตนแล้ว สามารถผูกบัตรโดยสารได้ทันที
ไม่มีค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนการลงทะเบียนบัตรในแอบทางรัฐ
บัตรประชาชนไม่สามารถใช้แตะเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าได้ และไม่สามารถเติมเงินหรือหักเงินค่าโดยสารได้
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับสิทธิ์ตามช่องทางและเงื่อนไขของสวัสดิการแห่งรัฐ
2. กลุ่มผู้ใช้งานพิเศษ
- ผู้สูงอายุ สามารถเลือกได้ว่าจะลงทะเบียนหรือไม่ลงทะเบียน
- หากไม่ลงทะเบียน
- ยังคงรับสิทธิ์ตามเดิม ตามบัตรที่ท่านเคยใช้เดินทาง ตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการรถไฟฟ้า หากสิทธิ์ลดหย่อนมีค่าโดยสารต่ำกว่าอัตรา 20 บาท ยังคงชำระในอัตราที่ต่ำกว่า
- หากลงทะเบียนด้วยบัตรที่กำหนด (บัตรแรบบิท / บัตร MRT EMV และบัตร Mangmoom EMV) ในแอปฯ ทางรัฐ
- การชำระค่าโดยสารด้วยบัตรที่นำมาลงทะเบียน ยังคงได้รับสิทธิ์ที่ลดหย่อนซึ่งค่าโดยสารที่ลดแล้วจะชำระสูงสุดไม่เกิน 20 บาท
- ทั้งนี้ บัตรที่นำมาลงทะเบียนต้องเป็นบัตรสำหรับผู้สูงอายุ (บัตร Rabbit สำหรับผู้สูงอายุ/ บัตร MRT EMV หรือ Mangmoom EMV สำหรับผู้สูงอายุ) จึงได้จะรับสิทธิ์ลดหย่อยพร้อมชำระค่าโดยสารไม่เกิน 20 บาท
- กรณีผู้สูงอายุนำบัตร EMV Contactless ของธนาคาร เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรเติมเงิน มาลงทะเบียน จะไม่ได้รับการลดหย่อยสำหรับผู้สูงอายุ แต่ยังคงได้รับสิทธิ์ตามมาตรการโดยชำระค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาท เนื่องจากบัตรดังกล่าวยังไม่มีสิทธิ์ลดหย่อนในการเดินทาง
คำแนะนำสำหรับผู้สูงอายุ
- หากประสงค์ลงทะเบียนรับสิทธิ์ตามมาตรการ 20 บาทตลอดสาย แนะนำให้ใช้บัตรแรบบิท สำหรับผู้สูงอายุ และ บัตร MRT EMV หรือ Mangmoom EMVสำหรับผู้สูงอายุ ในการลงทะเบียนรับสิทธิ์
- การลงทะเบียนของโครงการไม่ได้มีการจำกัดอายุของผู้ลงทะเบียน
- ดังนั้น นักเรียนสามารถลงทะเบียนได้
หมายเหตุ หากมีอายุไม่ถึง 10 ปี จำเป็นต้องยืนยันตัวตนเพิ่มเติม ณ จุดบริการของ BTS
ไม่ได้ เว้นแต่จะมีสัญชาติไทย และมีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งจะต้องยืนยันตัวตนการใช้งานแอปฯ ทางรัฐเสียก่อน
3. การใช้สิทธิ์เดินทาง
ผู้โดยสารจำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการ 20 บาทตลอดสาย
กรณีสายส่วนต่อขยายของบีทีเอส (BTS Extension) จะถือว่ารวมเป็น “สายเดียวกับ BTS หลัก” ดังนั้น การคำนวณค่าโดยสารภายใต้มาตรการ “20 บาทตลอดสาย” ยังคงใช้หลักการเดียวกัน ไม่มีการปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มเติม
กรณีมีการเปลี่ยนสาย เช่น BTS ไป MRT จะต้องแตะบัตร 2 ใบในการเดินทาง
เงินจะหักในบัตรแรกที่แตะเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า
ค่าโดยสารทั้งหมดจ่ายแค่ 20 บาทตลอดสาย
1. เปลี่ยนนอกสถานี (Different Line / Transfer Outside Station)
- จำกัดเวลา 30 นาที นับจากแตะออกสถานีแรก จนถึง แตะเข้าอีกสาย
- หากเกิน 30 นาที ระบบจะคิด ค่าแรกเข้าใหม่
ตัวอย่าง:
- นาย ก. แตะบัตรออกสถานี BTS สถานีหมอชิต เวลา 08:00 น. และแตะบัตรเข้าสาย MRT สีม่วงที่สถานีเตาปูนเวลา 08:35 น.
- ค่าโดยสาร : การเปลี่ยนนอกสถานีเกิน 30 นาที ต้องจ่ายค่าแรกเข้าใหม่ 20 บาท
2. อยู่ในสายเดียวกัน (Same Line / Within the Line)
- จำกัดเวลา 180 นาที สำหรับการเดินทางต่อเนื่องบนสายเดียวกัน
- หากเกิน 180 นาที ระบบจะคิด ค่าแรกเข้าใหม่
ตัวอย่าง:
- นาง ข. แตะเข้า BTS สายสีเขียว สถานีหมอชิตเวลา 07:00 น. ถึงสถานีเคหะเวลา 10:10 น.
- ค่าโดยสาร : การเดินทางเกิน 180 นาที ต้องจ่ายค่าแรกเข้าใหม่ 20 บาท
- กรณีค่าโดยสารไม่ถึง 20 บาท ผู้โดยสารเสียค่าโดยสารอัตราปกติ
4. ทางเลือกการชำระเงิน
ในกรณีที่ไม่เข้าร่วมโครงการนี้ สามารถใช้เงินสดซื้อตั๋วเดินทางได้ปกติ และเสียค่าโดยสารอัตราปกติ
กรณีไม่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารประจำสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี
ผู้โดยสารสามารถซื้อบัตร EMV Contactless ประเภทเติมเงิน (Prepaid) ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร (Ticket office)
หมวดบัตรแรบบิท (Rabbit)
5. สถานะบัตรแรบบิท (Rabbit)
- บัตรแรบบิท (หน้าบัตรปกติ) ราคา 200 บาท จัดจำหน่ายที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ทุกสถานี
- ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรแรบบิท ที่ https://rabbit.co.th/card
- บัตรแรบบิทที่หมดอายุจะไม่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้
- ผู้โดยสารจะต้องนำบัตรแรบบิทเดิมติดต่อพนักงานที่ห้องจำหน่ายตั๋ว และทำการสมัครใบใหม่
- เมื่อบัตรโดยสารใช้งานได้ตามปกติแล้ว จึงนำมาลงทะเบียนรับสิทธิ์ โครงการ 20 บาทตลอดสายได้
- ทั้งนี้ บัตรแรบบิทใบเดิมที่หมดอายุสามารถนำมาติดต่อขอคืนมูลค่าและเป็นส่วนลดในการซื้อบัตรแรบบิทใบใหม่ได้
- แนะนำให้ใช้เที่ยวโดยสารที่เหลือให้หมดก่อน
- เนื่องจากเมื่อผูกบัตรเข้ากับวอลเล็ตแล้ว จะไม่สามารถใช้เที่ยวโดยสารเดิมได้อีก
6. การผูกใช้งานบัตรแรบบิท (Rabbit)
- การตรวจสอบและตัดเงินรถไฟฟ้า 20 บาท จะดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับระบบของ Rabbit Wallet หรือ Rabbit Line Pay จึงจำเป็นต้องใช้บัตรที่ผูกกับระบบ Cloud Wallet
- หากเป็นบัตรแบบ Offline ที่ไม่ได้ผูกกับ Cloud Wallet ระบบจะไม่สามารถตรวจสอบและตัดเงินได้
- ไม่สามารถยกเลิกการผูกบัตรเดิมได้
- แนะนำให้ซื้อบัตรแรบบิทใบใหม่เพื่อผูกกับ Rabbit Wallet แทน
ชื่อผู้ลงทะเบียนและและชื่อผู้ถือบัตรต้องเป็นชื่อเดียวกัน
7. ปัญหาการผูกบัตรแรบบิท (Rabbit)
- บัตรแรบบิทที่จะผูกกับ Rabbit Wallet ต้องลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชนที่ตรงกับบัญชี Rabbit Wallet และต้องไม่เคยนำบัตรไปลงทะเบียนกับ LINE Pay มาก่อน
- หากผู้โดยสารเคยผูกกับ LINE Pay ไว้ก่อนหน้านี้ จะไม่สามารถผูกกับ Rabbit Wallet ได้ แนะนำให้ซื้อบัตรแรบบิทใบใหม่เพื่อผูกกับ Rabbit Wallet แทน
ติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้า BTS
My Rabbit
- หากบัตร Rabbit ที่เปิดใช้งานแล้วมีอายุเกิน 2 ปี จะไม่สามารถนำไปผูกกับแอปพลิเคชัน Rabbit Rewards หรือแอปพลิเคชัน My Rabbit เพื่อสะสมคะแนนหรือใช้งานได้ทันที
- คุณจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS หรือจุดบริการ Rabbit เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบและลงทะเบียนการใช้งานให้กับบัตรของคุณก่อน
Rabbit Wallet
- บัตรแรบบิทที่ออกมาก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ต้องนำบัตรไปติดต่อที่ห้องจำหน่ายตั๋วให้ทางสถานี ผูกบัตรกับ Rabbit Wallet
- เบื้องต้นต้องเปิดใช้งาน Rabbit Wallet ให้เรียบร้อย และติดต่อสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 4 สาย เพื่อทำการผูกบัตรแรบบิทกับ Rabbit wallet ให้ (โดยสถานีจะนำบัตรไปแตะที่เครื่อง POS หรือ A920 เพื่อทำการผูกกับ Rabbit wallet ให้)
หมวดบัตร EMV (เครดิต/เดบิต/แมงมุม)
8. ประเภทบัตรและการใช้งาน EMV
- บัตร Mangmoom EMV ราคา 250 บาท
- โปรโมชัน ราคา 150 บาท หากซื้อภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2568) จัดจำหน่ายที่สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงทุกสถานี และแอปเป๋าตังค์
- ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร Mangmoom EMV ที่ https://krungthai.com/th/personal/cards/cash-card-top-up-card/694
- บัตร MRT EMV ราคา 250 บาท
- จัดจำหน่ายที่สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินทุกสถานี
- ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร MRT EMV ที่ https://metro.bemplc.co.th/Ticket-Token?ty=8
- กรณีบัตรเติมเงิน MRT / MRT PLUS / Mangmoom เปลี่ยนเป็นบัตรเครดิต / บัตรเดบิต / บัตรเติมเงิน ไม่สามารถโอนยอดเงินคงเหลือเงินจากบัตรเก่ามาใบใหม่ได้ แต่สามารถนำบัตรมาขอคืนเงินคงเหลือได้ที่ห้องออกบัตรโดยสาร
- ทั้งนี้บัตรโดยสารเดิม สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าได้ตามปกติ แต่จะต้องชำระในอัตราค่าโดยสารปกติ และตามสิทธิประโยชน์ของหน้าบัตรเดิม
9. การลงทะเบียนและสิทธิ์ใช้งานบัตร EMV
- ชื่อผู้ลงทะเบียนและชื่อผู้ถือบัตร ต้องเป็นชื่อเดียวกัน
ผู้โดยสารเลือกลงทะเบียนบัตร EMV ได้ 1 ใบ และบัตร Rabbit Card ได้ 1 ใบเท่านั้น
ในกรณีที่คุณต้องการยกเลิก หรือเปลี่ยนบัตรที่ผูกไว้บนแอปทางรัฐ กรุณาติดต่อ ณ จุดให้บริการที่กระทรวงคมนาคมกำหนด **รอประกาศ
10. ปัญหาการผูกบัตร EMV
กรอกชื่อ-นามสกุลของผู้ถือบัตรเป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
- ระบบอาจจะมี traffic มาก มีผู้ใช้ในช่วงเวลาเดียวกันเป็นจำนวนมาก
- ต้องรีเฟรสและรอดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
หมวดแอปฯ ทางรัฐ
11. ปัญหาการใช้งานแอป ฯ ทางรัฐ
Apple สามารถตั้งค่าให้ปิดโหมด Developer ได้ ดังนี้
- Settings
- Privacy & Security
- Developer Mode
- กดปิด
Samsung สามารถตั้งค่าให้ปิดโหมด Developer ได้ ดังนี้
- Settings
- Developer options
- กดปิด
- วิธีแก้ไขเข้าแอปฯ ทางรัฐ เจอหน้าจอ ‘นโยบายความปลอดภัยทางรัฐ’
- จากนั้นจึงสามารถเริ่มพิสูจน์และยืนยันตัวตน (KYC) บนแอปฯ ทางรัฐ เพื่อเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐได้ทันที