การแจ้งขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน

การแจ้งขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน หรือ การลงบัญชีทหารกองเกิน (แบบ สด.9)

หลักเกณฑ์ / คุณสมบัติ

  • เป็นชายสัญชาติไทย
  • มีอายุครบ 17 ปี ในปีที่แจ้งขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน
  • บุคคลซึ่งยังไม่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามระยะเวลาที่กำหนด และอายุยังไม่ถึง 46 ปี ยังคงต้องลงบัญชีทหารกองเกิน

การนับอายุ

คนเกิดในวันใดเดือนใดก็ตามปีเดียวกัน เมื่อสิ้นปีนั้น อายุจะเท่ากันหมด

    • คือ 1 ปีบริบูรณ์และนับเป็นอายุย่าง 2 ปีด้วย
    • เช่น คนเกิดวันที่ 1 ม.ค.2540 กับคนเกิดวันที่ 31 ธ.ค.2540 เมื่อสิ้นปี 2540 และในวันที่ 1 ม.ค.2541 ให้นับอายุครบ 1 ปีบริบูรณ์ และจะมีอายุย่าง 2 ปี เท่ากัน

การจะทราบว่าอายุปัจจุบันเท่าใด

    • ให้เอา พ.ศ.ปัจจุบันตั้งลบด้วย พ.ศ.เกิด
    • เช่น คนเกิด พ.ศ.2524 จะมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ หรือย่างเข้า 18 ปี ตลอดปี 2541 คือ อายุครบและอายุย่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.41 – วันที่ 31 ธ.ค.41

เอกสาร/หลักฐาน

  • ใบสูติบัตร(ใบเกิด) หรือ บัตรประจำตัวประชาชน ของผู้แจ้งขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน
  • ทะเบียนบ้านฉบับจริงที่มีชื่อของผู้แจ้ง
  • ทะเบียนบ้านฉบับจริงที่มีชื่อของ บิดา มารดา ของผู้แจ้ง
  • ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว (กรณีบิดา มารดา เป็นบุคคลต่างด้าว)
  • หลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล หรือใบมรณบัตร (กรณีบิดามารดาเสียชีวิต)

ขั้นตอนการแจ้ง

  • ผู้แจ้งรายงานตัวเพื่อแจ้งขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกินต่อนายอำเภอในท้องที่พร้อมเอกสารหลักฐาน
  • เมื่อแจ้งขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกินต่อนายอำเภอในท้องที่แล้ว นายอำเภอท้องที่จะทำการตรวจสอบหลักฐานเอกสาร เมื่อเห็นว่าถูกต้องจะลงบัญชีทหารกองเกินและออกใบสำคัญทหารกองเกินแบบ สด.9 ให้เป็นหลักฐาน

หมายเหตุ **กรณีขึ้นทะเบียนล่าช้า (เกินปีที่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียน) ทางเจ้าหน้าที่อาจมีการเรียกเก็บในส่วนของค่าธรรมเนียมเอกสาร สด.9 ประมาณ 20 บาท

สถานที่ในการแจ้ง

กรณีบิดาและมารดาจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย

    • ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ ให้ลงบัญชีที่อำเภอที่บิดามีภูมิลำเนาอยู่ (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าบิดาเสียชีวิต ให้ลงบัญชีที่อำเภอที่มารดามีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิต แต่มีผู้ปกครอง ให้ลงบัญชีที่อำเภอที่ผู้ปกครองมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าบิดามารดา หรือผู้ปกครอง เสียชีวิต ให้ลงบัญชีที่เขตหรืออำเภอท้องที่ที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านก็ให้ลงบัญชีที่อำเภอท้องที่อยู่ในปัจจุบัน

กรณีบิดาและมารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย

    • กรณีที่บิดาจดทะเบียนรับรองบุตร ให้ลงบัญชี อำเภอที่บิดามีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าบิดา มารดามิได้จดทะเบียนสมรส และบิดามิได้จดทะเบียนรับรองบุตร ให้ลงบัญชี อำเภอที่มารดามีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้ามารดาเสียชีวิต ให้ลงบัญชีที่อำเภอที่ผู้ปกครองมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าไม่เข้ากรณีดังกล่าวเลย ให้ลงบัญชีที่เขตหรืออำเภอท้องที่ที่ตนมีภูมิลำเนา (มีชื่อตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านให้ลงบัญชีที่อำเภอท้องที่อยู่ในปัจจุบัน

กรณีบิดาและมารดาจดทะเบียนหย่าในภายหลัง

    • ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ ให้ลงบัญชีที่อำเภอที่บิดามีภูมิลำเนาอยู่ (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ถ้าบิดาเสียชีวิต ให้ลงบัญชีที่อำเภอที่มารดามีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน)
    • ในกรณีที่บิดา มารดาได้จดทะเบียนหย่าในภายหลัง ให้ดูหลักฐานในบันทึกการหย่าว่าบุตรอยู่ในความปกครองของใคร ก็ให้ไปขึ้นทะเบียนทหารกองเกินที่อำเภอ / เขตที่บิดาหรือมารดา มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

บทลงโทษของการไม่แจ้งขอขึ้นทะเบียนทหาร

  • หากมาขอลงบัญชีทหารกองเกินก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการฟ้องร้องและจับกุม บทลงโทษจะลดลงเหลือเพียงจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยส่งให้พนักงานสอบสวน คือ ตำรวจเป็นผู้ปรับเงิน
  • หากทางอำเภอหรือเจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดี จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • หากหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร หรือทดลองความพรั่งพร้อม หรือในการระดมพล ต้องมีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 4 ปี

ข้อควรทราบ

  • บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ได้สัญชาติเป็นไทย หรือได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติหรือได้กลับคืนสัญชาติไทย ต้องไปแสดงตนลงบัญชีทหารกองเกินภายในกำหนด 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาต
  • กรณีบุคคลที่ถือ 2 สัญชาติ คือ สัญชาติไทยและสัญชาติอื่นใดก็ตาม สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชรนระหว่างประเทศ (สฝคป.) ชี้แจงว่า ตามกฏหมายไทยถือว่ายังเป็นบุคคลที่ถือสัญชาติไทยอยู่ และเมื่อเป็นผู้มีสัญชาติไทย จึงต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 หากไม่ปฏิบัติตามย่อมมีความผิดตามกฏหมาย
  • บุคคลที่ไม่ได้ไปลงบัญชีทหารกองเกินพร้อมคนเกิด พ.ศ. เดียวกัน มีความผิดตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 44 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การขึ้นทะเบียนทหารกองเกินแทน

ข้อควรทราบ

  • ผู้ที่ไม่สามารถไปขึ้นทะเบียนทหารกองเกินด้วยตนเองได้ สามารถให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะและเชื่อถือได้ไปแจ้งแทน (ปกติควรให้ผู้ปกครอง) เรียกว่า “การลงบัญชีทหารกองเกินแทน”
  • บุคคลซึ่งยังไม่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามระยะเวลาที่กำหนด และอายุยังไม่ถึง 46 ปี ต้องลงบัญชีทหารกองเกินเอง จะให้ผู้อื่นแจ้งแทนไม่ได้

กรณีที่สามารถขึ้นทะเบียนทหารแทนได้

  • ป่วย
  • อยู่ต่างประเทศ ยังไม่มีกำหนดกลับ หรือ มีกำหนดกลับแต่วันที่จะกลับเลยกำหนดเวลาการลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว
  • ไปศึกษาต่างท้องที่หรือต่างประเทศและไม่สามารถกลับมาลงบัญชีทหารกองเกินได้ เพราะติดการสอบ

สถานที่ติดต่อสอบถาม

การแจ้งขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกินของบุคคลถือสองสัญชาติ

     กรณีบุคคลถือสองสัญชาติ คือ สัญชาติไทยและสัญชาติตามบิดาหรือมารดาชาวต่างชาติ ตามกฎหมายไทยถือว่ามีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย กล่าวคือ ชายที่ถือสัญชาติไทยทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ซึ่งได้กำหนดให้ชายที่มีสัญชาติไทยมีหน้าที่รับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน

หลักเกณฑ์/คุณสมบัติ

  • เป็นชายสัญชาติไทย
  • มีอายุครบ 17 ปี ในปีที่แจ้งขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน
  • บุคคลซึ่งยังไม่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามระยะเวลาที่กำหนด และอายุยังไม่ถึง 46 ปี ยังคงต้องลงบัญชีทหารกองเกิน

หมายเหตุ **การนับอายุ

    • คนเกิดในวันใดเดือนใดก็ตามปีเดียวกัน เมื่อสิ้นปีนั้น อายุจะเท่ากันหมด คือ 1 ปีบริบูรณ์และนับเป็นอายุย่าง 2 ปีด้วย เช่น คนเกิดวันที่ 1 ม.ค.2540 กับคนเกิดวันที่ 31 ธ.ค.2540 เมื่อสิ้นปี 2540 และในวันที่ 1 ม.ค.2541 ให้นับอายุครบ 1 ปีบริบูรณ์ และจะมีอายุย่าง 2 ปี เท่ากัน
    • ารจะทราบว่าอายุปัจจุบันเท่าใด ให้เอา พ.ศ.ปัจจุบันตั้งลบด้วย พ.ศ.เกิด เช่น คนเกิด พ.ศ.2524 จะมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ หรือย่างเข้า 18 ปี ตลอดปี 2541 คือ อายุครบและอายุย่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.41 – วันที่ 31 ธ.ค.41

เอกสาร/หลักฐาน

  • ใบสูติบัตร (ใบเกิด) หรือ บัตรประจำตัวประชาชน ของผู้แจ้งขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน
  • ทะเบียนบ้านฉบับจริงที่มีชื่อของผู้แจ้ง 
  • ทะเบียนบ้านฉบับจริงที่มีชื่อของ บิดา มารดา ของผู้แจ้ง 
  • ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว (กรณีบิดา มารดา เป็นบุคคลต่างด้าว)
  • หลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล หรือใบมรณบัตร (กรณีบิดามารดาเสียชีวิต)

ขั้นตอนการแจ้ง

  • ผู้แจ้งรายงานตัวเพื่อแจ้งขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกินต่อนายอำเภอในท้องที่พร้อมเอกสารหลักฐาน
  • เมื่อแจ้งขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกินต่อนายอำเภอในท้องที่แล้ว นายอำเภอท้องที่จะทำการตรวจสอบหลักฐานเอกสาร เมื่อเห็นว่าถูกต้องจะลงบัญชีทหารกองเกินและออกใบสำคัญทหารกองเกินแบบ สด.9 ให้เป็นหลักฐาน

หมายเหตุ

  • กรณีบุคคลสองสัญชาติที่ไม่สามารถอ่าน เขียน หรือพูดภาษาไทยได้
    ต้องมีผู้ปกครองมาด้วย
  • กรณีขึ้นทะเบียนล่าช้า (เกินปีที่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียน)
    ทางเจ้าหน้าที่อาจมีการเรียกเก็บในส่วนของค่าธรรมเนียมเอกสาร สด.9 ประมาณ 20 บาท
  • กรณีไม่สามารถไปลงบัญชีทหารกองเกินด้วยตนเองได้
    สามารถให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะและเชื่อถือได้ไปแจ้งแทนได้ (ปกติจะเป็นญาติพี่น้อง)

สถานที่ติดต่อสอบถาม

  • สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่บิดาหรือมารดามีภูมิลำเนา (กรณีบิดาเป็นชาวต่างชาติไม่มีที่อยู่ในราชอาณาจักรไทยให้ลงทะเบียนตามภูมิลำเนามารดา)

บทลงโทษของการไม่แจ้งขอขึ้นทะเบียนทหาร

  • หากมาขอลงบัญชีทหารกองเกินก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการฟ้องร้องและจับกุม บทลงโทษจะลดลงเหลือเพียงจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยส่งให้พนักงานสอบสวน คือ ตำรวจเป็นผู้ปรับเงิน
  • หากทางอำเภอหรือเจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดี จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • หากหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน ไม่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร หรือทดลองความพรั่งพร้อม หรือในการระดมพล ต้องมีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 4 ปี

หมายเหตุ

    • สำหรับการดำเนินการทุกขั้นตอนตั้งแต่การแจ้งขึ้นทะเบียนทหารไปจนถึงการตรวจเลือกให้เป็นไปตามขั้นตอนปกติของกฎหมายไทย
    • การที่บุคคลที่ถือสองสัญชาติโดยมีสัญชาติไทยด้วย จำเป็นต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร เพราะหากครอบครัวกลับมาตั้งหลักปักฐานในเมืองไทย กรณีบุตรชายจะต้องสมัครงานก็ต้องมีใบผ่านการเกณฑ์ทหารติดตัวด้วยจึงจะสมัครงานได้

หน่วยงานที่รับผิดชอบ กองทัพบก กระทรวงกลาโหม