การรับสมัครทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ โดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ ประจําปี 2569

การรับสมัคร

หน่วยทหารที่เปิดรับสมัคร ผลัดที่ 1/2569

กำหนดการรับสมัครฯ 

  • ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึง 25 มกราคม 2569

คุณสมบัติของผู้สมัคร

ผู้ที่สามารถสมัครได้

    1. ช่วงอายุ:
      • ทหารกองเกินที่มีอายุ 18-20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2569 (เกิดปี พ.ศ. 2549 – 2551)
      • ทหารกองเกินที่มีอายุ 22-29 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2569 (เกิดปี พ.ศ. 2540 – 2547).
    2. เงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับผู้สมัครอายุ 22-29 ปีบริบูรณ์:
      • ต้องเป็นผู้ที่เคยถูกเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการแล้ว แต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ.
      • มีผลการตรวจเลือกฯ เป็นจำพวกต่อไปนี้:
        • คนจำพวกที่ 2
        • คนจำพวกที่ 3 ครั้งที่ 3
        • คนจำพวกที่ ๔ (ซึ่งต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลในสังกัด ทบ. หรือโรงพยาบาลของรัฐ โดยแพทย์ผู้ตรวจลงความเห็นว่า “ผลการตรวจโรคหรือสภาพร่างกายขณะนี้พบว่าเป็นผู้ที่ไม่มีโรคหรือสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจที่ไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้” ยกเว้นผู้ที่มีภาวะอ้วน ไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ฯ ก็ได้).
        • ผู้จับสลากดำ.
        • คนไม่ได้ขนาด.
        • คนได้รับการปล่อยตัวเพราะรับคนร้องขอฯ พอ.
        • คนได้รับการปล่อยตัวฯ เพราะส่งคนขนาดสูงกว่าพอ.
        • สำหรับคนจำพวกที่ 1 ที่ถูกปล่อยตัวเพราะรับคนร้องขอฯ พอ, ส่งคนขนาดสูงกว่าฯ พอ, คนไม่ได้ขนาด และคนจับสลากดำ ไม่ต้องตรวจสอบใบรับรองแพทย์.
    3. สภาพร่างกายและจิตใจ: ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์ดี ไม่มีโรค หรือสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 74 (พ.ศ. 2540) ออกตามความใน พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗.
    4. ขนาดร่างกาย:
      • ขนาดรอบตัว ตั้งแต่ 76 ซม. ขึ้นไป ในเวลาหายใจออก.
      • ขนาดความสูง ตั้งแต่ 146 ซม. ขึ้นไป.
    5. ประวัติอาชญากรรม: ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา หรือได้รับการพักการลงโทษ (การควบคุมความประพฤติ).
    6. คุณวุฒิการศึกษา: ไม่จำกัดคุณวุฒิการศึกษา.
    7. ภูมิลำเนาทหาร: สามารถสมัครได้โดยไม่จำกัดภูมิลำเนาทหาร.

ผู้ที่ไม่สามารถสมัครฯ ได้

    • ผู้ที่มีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2569 (เกิดปี พ.ศ. 2548) ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกำหนดเรียกไปเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการประจำปี 2569
    • ผู้ที่มีอายุ 22-29 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2568 (เกิดปี พ.ศ. 2537-2546) ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกฯ หรือผู้ที่มีผลการตรวจเลือกฯ ยังไม่แล้วเสร็จทุกกรณี เช่น ผู้ที่อยู่ระหว่างที่จะได้รับการผ่อนผัน หรือคนจำพวกที่ 3 ครั้งที่ 1 หรือ 2
    • ผู้ที่เคยเข้ารับราชการทหารกองประจำการ
    • ผู้ที่ได้รับการปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1
    • ผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป ซึ่งอยู่ระหว่างนำตัวขึ้นทะเบียนกองประจำการและนำปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1

เอกสารที่ต้องใช้

  1. ใบสำคัญ (แบบ สด.9) 
  2. ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (แบบ สด.43) สำหรับผู้ที่เคยถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการแล้ว แต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ
  3. บัตรประจำตัวประชาชน
  4. สำเนาทะเบียนบ้านของตนเอง, บิดา และมารดา
  5. หลักฐานคุณวุฒิการศึกษา/หนังสือรับรองคุณวุฒิการศึกษา หรือคุณวุฒิพิเศษ
  6. หลักฐานอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น หนังสือการเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล

หมายเหตุ 

  • ในวันเข้ารับการคัดเลือก ผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานฉบับจริง ไปแสดงต่อคณะกรรมการคัดเลือก
  • สำหรับข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน สามารถยืนยันด้วยแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” หรือ “thaid” ก็ได้

ช่องทางการสมัคร

สมัครด้วยระบบออนไลน์

    • ผู้สมัครสามารถสมัครด้วยตนเองได้ตลอด 24ชั่วโมงที่  https://rcm.rta.mi.th

สมัครด้วยตนเอง ณ หน่วยทหาร

    • สามารถสมัครได้ที่หน่วยทหารสังกัด ทบ. หรือสำนักงานสัสดีกรุงเทพมหานคร/จังหวัด หรือหน่วยสัสดีเขต/อำเภอ ที่อยู่ใกล้และสะดวก ในวันและเวลาราชการ
    • โดยเจ้าหน้าที่ของหน่วยทหารจะอำนวยความสะดวกในการสมัครผ่านระบบออนไลน์

ขั้นตอนการสมัครของระบบออนไลน์

  1. กรอกข้อมูลการสมัคร: ผู้สมัครหรือหน่วยทหารจะกรอกข้อมูลการสมัครในระบบออนไลน์และดำเนินการตามขั้นตอนของระบบ
  2. เลือกหน่วยทหาร: เลือกหน่วยทหารที่ต้องการเป็นทหารกองประจำการมากที่สุด จำนวน 1 หน่วย จากหน่วยที่เปิดรับสมัคร
  3. เลือกวันและสถานที่คัดเลือก: สามารถเลือกวันและสถานที่ที่จะไปเข้ารับการคัดเลือกตามที่ทางราชการกำหนด หรือจะยังไม่เลือกก็ได้ โดยสามารถไปเข้ารับการคัดเลือกได้ทุกหน่วยคัดเลือกฯ หรือหน่วยคัดเลือกฯ เคลื่อนที่ทุกแห่งทั่วประเทศ
  4. ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล: ตรวจสอบข้อมูลที่กรอกในใบสมัครให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนการกดยืนยันส่งใบสมัคร ผู้สมัครจะต้องรับผิดชอบในการกรอกข้อมูลต่างๆ ในใบสมัครให้ถูกต้องครบถ้วนตามความจริง หากกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่ถูกต้อง หรือใช้เอกสารปลอม ทาง ทบ. จะสงวนสิทธิในการปฏิเสธการรับสมัครหรือไม่ให้เข้ารับการคัดเลือกทันที
  5. รับใบตอบรับการสมัคร: เมื่อดำเนินการสมัครเสร็จสิ้น ระบบจะแจ้งตอบรับการสมัครโดยอัตโนมัติ ใบตอบรับนี้จะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา และสถานที่ที่จะต้องไปทำการคัดเลือก ผู้สมัครจะต้องพิมพ์ใบตอบรับการรับสมัคร (ผนวก ก) จากระบบ หรือบันทึกภาพหน้าจอมือถือเก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำไปยื่นต่อคณะกรรมการคัดเลือกในวันเข้ารับการคัดเลือก

หมายเหตุ

  • ผู้สมัครจะไม่สามารถเปลี่ยนหน่วยที่ต้องการเข้ารับราชการทหารได้หลังจากสมัครเรียบร้อยแล้ว เว้นแต่จะแจ้งต่อคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อขอเปลี่ยนหน่วยในวันเข้ารับการคัดเลือก และต้องแจ้งก่อนเสร็จสิ้นการคัดเลือกของตนเองในขั้นตอนก่อนที่คณะกรรมการคัดเลือกจะออกใบนัด
  • ผู้สมัครสามารถไปเข้ารับการคัดเลือกได้ทุกหน่วยคัดเลือก หรือหน่วยคัดเลือกเคลื่อนที่ทั่วประเทศที่อยู่ใกล้หรือสะดวกในการเดินทาง
  • หากไม่สามารถไปเข้ารับการคัดเลือกตามกำหนดได้ แต่ยังมีความประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือก ก็สามารถไปเข้ารับการคัดเลือกได้ในครั้งถัดไป ตามวันและสถานที่ที่ ทบ. กำหนดให้ทำการคัดเลือก
  • หากเป็นผู้สมัครอายุ 22-29 ปีบริบูรณ์ ที่เคยผ่านการตรวจเลือกฯ และมีผลเป็นจำพวกที่ 2, จำพวกที่ 3 (ครั้งที่ 3), จำพวกที่ 4 จะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลในสังกัด ทบ. หรือโรงพยาบาลของรัฐ โดยแพทย์ลงความเห็นว่า “ผลการตรวจโรคหรือสภาพร่างกายขณะนี้พบว่าเป็นผู้ที่ไม่มีโรคหรือสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจที่ไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้” ซึ่งออกให้ไม่เกิน 60 วันก่อนวันคัดเลือก ยกเว้นผู้ที่มีภาวะอ้วน ไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ฯ ก็ได้

การคัดเลือก

กำหนดวันคัดเลือก

การคัดเลือกจะดำเนินการ 4 ครั้ง ในระหว่างเวลา 08.00 – 16.30 น. ดังนี้

    1. ครั้งที่ 1: วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568
    2. ครั้งที่ 2: วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568
    3. ครั้งที่ 3: วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2569
    4. ครั้งที่ 4: วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม 2569

ขั้นตอนคัดเลือก

  • คณะกรรมการคัดเลือกจะดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง แนวทางการคัดเลือกจากการปฐมนิเทศ และคู่มือการคัดเลือกของ นรด.
  • ผลการคัดเลือกจะมีเพียง “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” เท่านั้น.

โต๊ะที่ 1: การตรวจสอบคุณสมบัติ, เอกสารหลักฐาน และการรับสมัครฯ

    • มีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ 2 นาย และเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์ 2 นาย
    • เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์ (คนที่ 1) จะให้คำแนะนำหรืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มาคัดเลือกแต่ยังไม่ได้สมัครออนไลน์ ในการสมัครออนไลน์ให้เรียบร้อย และพิมพ์ใบตอบรับการรับสมัคร (ผนวก ก) มอบให้ผู้สมัคร
    • เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลฯ (คนที่ 2) จะพิมพ์แบบคัดเลือก (ผนวก ค) ของผู้มารายงานตัวทุกคน
    • เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจะ ตรวจสอบหลักฐานและคุณสมบัติ ของผู้เข้ารับการคัดเลือกดังนี้:
      • ใบตอบรับการรับสมัคร (ผนวก ก).
      • คุณสมบัติและเอกสารหลักฐานจริงตามที่กำหนด (เช่น สด.9, สด.43) โดยสามารถใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” หรือ “thaid” เพื่อยืนยันข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านได้.
      • ตรวจสอบใบรับรองแพทย์: สำหรับผู้สมัครอายุ 22-29 ปี ที่เคยผ่านการตรวจเลือกฯ เป็นคนจำพวกที่ 2, 3 (ครั้งที่ 3), 4 จะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลในสังกัด ทบ. หรือโรงพยาบาลของรัฐ โดยแพทย์ลงความเห็นว่า “ผลการตรวจโรคหรือสภาพร่างกายขณะนี้พบว่าเป็นผู้ที่ไม่มีโรคหรือสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจที่ไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้” ซึ่งออกให้ไม่เกิน 60 วันก่อนวันคัดเลือก. ยกเว้นผู้ที่มีภาวะอ้วน ไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
      • ผู้ที่มีผลตรวจเลือกฯ เป็นคนจำพวกที่ 1 ที่ถูกปล่อยตัวเพราะรับคนร้องขอฯ พอ, ส่งคนขนาดสูงกว่าฯ พอ, คนไม่ได้ขนาด และคนจับสลากดำ ไม่ต้องตรวจสอบใบรับรองแพทย์
    • การบันทึกผลโต๊ะที่ 1:
      • ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน จะบันทึกในแบบคัดเลือกฯ (ผนวก ค) ว่า “มีคุณสมบัติ” ลงลายมือชื่อ และส่งไปยังโต๊ะที่ 2
      • ผู้ที่ขาดคุณสมบัติ จะบันทึกว่า “ขาดคุณสมบัติ” ลงลายมือชื่อ และส่งไปยังโต๊ะที่ 4 เพื่อบันทึกข้อมูลในระบบ, พิมพ์ใบรับรองผลการคัดเลือกฯ (ผนวก ง) และส่งให้ประธานกรรมการลงนามที่โต๊ะ 5
      • ผู้ที่แจ้งสละสิทธิ จะบันทึกว่า “สละสิทธิ” ลงลายมือชื่อ และส่งไปยังโต๊ะที่ 4 เพื่อดำเนินการเช่นเดียวกับผู้ขาดคุณสมบัติ.


โต๊ะที่ 2: การวัดขนาดร่างกาย (สูงและรอบตัว)

    • มีนายทหารสัญญาบัตรเป็นผู้รับผิดชอบ และมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ 3 นาย.
    • เกณฑ์การวัด:
      • ความสูง ตั้งแต่ 146 ซม. ขึ้นไป
      • ขนาดรอบตัว ตั้งแต่ 76 ซม. ขึ้นไป ในเวลาหายใจออก.
    • การบันทึกผลโต๊ะที่ ๒:
      • ผู้ที่วัดขนาดได้ตามเกณฑ์ หรือสูงกว่า จะบันทึกในแบบคัดเลือกฯ (ผนวก ค) ว่า “มีคุณสมบัติ” ลงลายมือชื่อ และส่งไปยังโต๊ะที่ 3
      • ผู้ที่วัดขนาดต่ำกว่าเกณฑ์ จะบันทึกว่า “ขาดคุณสมบัติ” ลงลายมือชื่อ และส่งไปยังโต๊ะที่ ๔ เพื่อบันทึกข้อมูลในระบบ, พิมพ์ใบรับรองผลการคัดเลือกฯ (ผนวก ง) และส่งให้ประธานกรรมการลงนามที่โต๊ะ 5
      • กรณีผู้เข้ารับการคัดเลือกในวันที่ 15 พ.ย. 68 หรือ 13 ธ.ค. 68  มีขนาดรอบตัวต่ำกว่าเกณฑ์ 4-6 ซม. และยังประสงค์จะเข้ารับราชการทหารกองประจำการ จะถูกแนะนำให้ไปคัดเลือกอีกครั้งในวันที่ 24-25 ม.ค. 69 โดยยังไม่ต้องบันทึกผลการคัดเลือกในครั้งนั้น.

โต๊ะที่ ๓: การตรวจร่างกาย

    • มีกรรมการนายแพทย์ (ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันชั้น 1 สาขาเวชกรรม) เป็นผู้รับผิดชอบ และมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ 2 นาย
    • ผู้ที่จะผ่านการคัดเลือกจะต้อง ไม่มีโรค หรือสภาพร่างกาย หรือสภาพจิตใจที่ขัดต่อการรับราชการทหาร ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 74 (พ.ศ. 2540)
    • การบันทึกผลโต๊ะที่ 3
      • ผู้ที่แพทย์ตรวจแล้วพบว่าร่างกายสมบูรณ์ดี สามารถเข้ารับราชการทหารได้ จะถือว่า “ผ่านการคัดเลือกฯ” และกรรมการแพทย์จะบันทึกผลลงในแบบคัดเลือกฯ (ผนวก ค) ลงลายมือชื่อ และส่งไปยังโต๊ะที่ 4
      • ผู้ที่แพทย์ตรวจแล้วพบว่ามีโรคหรือสภาพร่างกาย/จิตใจที่ขัดต่อการรับราชการทหาร จะถือว่า “ไม่ผ่านการคัดเลือกฯ” และกรรมการแพทย์จะบันทึกผลลงในแบบคัดเลือกฯ (ผนวก ค) ลงลายมือชื่อ และส่งไปยังโต๊ะที่ 4 เพื่อบันทึกข้อมูลในระบบ, พิมพ์ใบรับรองผลการคัดเลือกฯ (ผนวก ง) และส่งให้ประธานกรรมการลงนามที่โต๊ะ 5
      • กรณีผู้เข้ารับการคัดเลือกในวันที่ 15 พ.ย. 68 หรือ 13 ธ.ค. 68 มีภาวะอ้วน และยังประสงค์จะเข้ารับราชการทหารกองประจำการ จะถูกแนะนำให้ไปคัดเลือกอีกครั้งในวันที่ 24-25 ม.ค. 69 โดยยังไม่ต้องบันทึกผลการคัดเลือกในครั้งนั้น.

โต๊ะที่ ๔: กรรมการสัสดี

    • มีกรรมการนายทหารสัญญาบัตรสายงานสัสดีเป็นผู้รับผิดชอบ และมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ 3 นาย
    • มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกอีกครั้ง, บันทึกผลการคัดเลือกในระบบคอมพิวเตอร์, จัดพิมพ์ใบรับรองผลการคัดเลือก (ผนวก ง), ใบนัดฯ (ผนวก จ) และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
    • สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกฯ:
      • ตรวจสอบและยืนยันหน่วยทหารที่ต้องการเข้ารับราชการ หากต้องการเปลี่ยนหน่วยต้องแจ้งในขั้นตอนนี้ก่อนพิมพ์ใบนัดฯ (ผนวก จ).
      • กรณีหน่วย ทบ. ที่เลือกมียอดเกินอัตราเปิดรับสมัคร อาจถูกสอบถามความประสงค์ว่าจะยังคงสมัครหน่วยเดิม, เป็นตัวสำรอง, เลือกรับราชการในผลัดที่ 2/2569, เปลี่ยนไปหน่วยข้างเคียงใน มทบ. เดียวกัน, เลือกหน่วยอื่นในต่าง มทบ./ทภ. ที่ยังว่าง หรือสละสิทธิ.
      • บันทึกผลการคัดเลือกในระบบคอมพิวเตอร์ ลงลายมือชื่อในแบบคัดเลือกฯ (ผนวก ค) ถือเป็นการนับลำดับผู้ผ่านการคัดเลือกของหน่วยนั้น.
      • พิมพ์ใบนัดเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (ผนวก จ) มอบให้ผู้ผ่านการคัดเลือกเพื่อนำไปรายงานตัว.
      • หากผู้ผ่านการคัดเลือกมีคุณวุฒิพิเศษและต้องการขอสิทธิลดวันรับราชการ จะได้รับใบคำร้องขอสิทธิลดวันรับราชการ (ผนวก ฉ) เพื่อนำไปกรอกและยื่นในวันรายงานตัว.
      • ผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีอายุ 28-20 ปี หรือ 22-29 ปี (เกิด พ.ศ. 2547-2551 หรือ 2540-2547) จะได้รับหนังสือแสดงความยินยอมและรับรองของบิดา มารดา หรือผู้ใช้อำนาจปกครอง (ผนวก ช) เพื่อนำไปให้ผู้ปกครองลงนามและยื่นในวันรายงานตัว.
      • ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ แนวทางความก้าวหน้า และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง.
    • สำหรับผู้ที่ไม่ได้ผ่านการคัดเลือกฯ:
      • บันทึกผลในระบบคอมพิวเตอร์และพิมพ์ใบรับรองผลการคัดเลือกฯ (ผนวก ง) ส่งให้ประธานกรรมการลงนามที่โต๊ะ 5
      • สำหรับผู้สมัครอายุ 18-20 ปี ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกฯ หากยังต้องการสมัครในอนาคต จะได้รับคำแนะนำในการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง และแนะนำให้มาสมัครใหม่ในปีถัดไป แต่จะไม่สามารถนำผลการคัดเลือกครั้งนี้ไปอ้างสิทธิเพื่อไม่เข้ารับการตรวจเลือกฯ ตามหมายเรียก (สด.35) ได้.

โต๊ะที่ ๕: ประธานกรรมการคัดเลือก

    • อำนวยการ ควบคุม กำกับดูแล การคัดเลือกฯ ให้เรียบร้อย.
    • ลงลายมือชื่อในแบบคัดเลือกฯ (ผนวก ค) และมอบใบรับรองผลการคัดเลือกฯ (ผนวก ง) ให้กับผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกทุกคน.
    • ลงลายมือชื่อและมอบใบนัดเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (ผนวก จ) ให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทุกคน.

ผู้ที่ไม่มาเข้ารับการคัดเลือกฯ หรือไม่ผ่านการคัดเลือกฯ

  • หากผู้สมัครไม่มาเข้ารับการคัดเลือกฯ หรือไม่ผ่านการคัดเลือกฯ หรือผ่านแล้วแต่ไม่ไปรายงานตัวเข้าหน่วยทหารตามที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิการสมัครฯ โดยอัตโนมัติ
  • สำหรับผู้มีอายุ 18-20 ปี ที่ไม่มาคัดเลือก หรือไม่ผ่าน หรือผ่านแล้วไม่ไปรายงานตัว จะต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินตามหมายเรียก (สด.35) ของภูมิลำเนาทหารของตน และไม่สามารถนำผลการคัดเลือกนี้ไปอ้างสิทธิเพื่อไม่ไปเข้ารับการตรวจเลือกฯ ได้

การรายงานตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการ

       สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและถูกกำหนดให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ ประจำปี ๒๕๖๙ มีกำหนดวันรายงานตัวดังนี้:

วันรายงานตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2569

สำหรับแผนก กองทัพบก (ทบ.)

    • ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จะต้องไปรายงานตัวเข้าหน่วยใน วันที่ 1 พฤษภาคม 2569 ณ มณฑลทหารบก (มทบ.) ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยที่ผู้ผ่านการคัดเลือกประสงค์จะเข้ารับราชการกองประจำการ.
    • ในกรณีที่ผู้สมัครได้เลือกเป็น ตัวสำรอง (ตัวอะไหล่) และหากทางราชการเรียกตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการ จะต้องไปรายงานตัวเข้าหน่วยใน วันที่ 4 พฤษภาคม 2569

สำหรับแผนก กองทัพเรือ (ทร.)

    • ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องไปรายงานตัวเข้าหน่วยใน วันที่ 1 พฤษภาคม 2569 ณ จังหวัด (จว.) ตามที่กำหนดไว้ในใบนัดฯ (ผนวก จ).

สำหรับแผนก กองทัพอากาศ (ทอ.)

    • ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องไปรายงานตัวเข้าหน่วยใน วันที่ 1 พฤษภาคม 2569 ณ มณฑลทหารบก (มทบ.) ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยที่ผู้ผ่านการคัดเลือกประสงค์จะเข้ารับราชการกองประจำการ.

หมายเหตุ 

    • หากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกไม่มารายงานตัวตามวันเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิการสมัครฯ โดยอัตโนมัติ

เอกสารและหลักฐานที่ต้องนำไปแสดงในวันรายงานตัว

       ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและมารายงานตัวจะต้องนำเอกสารหลักฐานฉบับจริงไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับคนในวันรายงานตัวเข้าหน่วย

    1. บัตรประจำตัวประชาชน
    2. ใบนัดฯ (ผนวก จ)
    3. ใบสำคัญ (แบบ สด.9)
    4. ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (แบบ สด.43) สำหรับผู้ที่มีอายุ 22-29 ปีบริบูรณ์ ที่เคยถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการแล้วแต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ
    5. หนังสือแสดงความยินยอมและรับรองของบิดา มารดา หรือผู้ใช้อำนาจปกครอง (ผนวก ช) สำหรับผู้ที่มีอายุ 18-20 ปีบริบูรณ์
    6. หลักฐานคุณวุฒิการศึกษา หรือคุณวุฒิพิเศษ พร้อมคำร้องขอสิทธิลดวันรับราชการทหารกองประจำการ (ผนวก ฉ) หากมีความประสงค์จะยื่นคุณวุฒิเพื่อขอสิทธิลดวันรับราชการ

สิทธิประโยชน์

       ทุกหน่วยงานได้รับเงินเดือน-สวัสดิการเหมือนกัน แต่สิทธิพิเศษจะแตกต่างกันไปตามสายการศึกษาและเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ เช่น โควตาเรียนต่อ โรงเรียนนายร้อย/นายสิบ ของแต่ละเหล่าทัพ หรือฝึกวิชาชีพเฉพาะด้าน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รายละเอียดแนวทางการดําเนินการรับสมัครและการคัดเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการ ทหารกองประจําการ โดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ ประจำปี 2569

🏛️ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.)

  • เงินเดือน/สวัสดิการรักษาพยาบาล
  • โอกาสบรรจุเข้ารับราชการในส่วนกลางของกระทรวงกลาโหม
  • สิทธิสอบเข้าศึกษาต่อในสายงานพลเรือนกลาโหม

🎖️ กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.)

  • เงินเดือนและสิทธิประโยชน์ทั่วไปเหมือนทุกเหล่าทัพ
  • โควตาเข้าสอบบรรจุทหารประจำการของหน่วย บก.ทท.
  • สิทธิเรียนต่อในสถาบันทหารที่สังกัด บก.ทท.

🪖 กองทัพบก (ทบ.)

  • ได้รับ เงินเดือน/เบี้ยเลี้ยง และสวัสดิการรักษาพยาบาล
  • ลดระยะเวลารับราชการ ตามคุณวุฒิการศึกษา/รด.
  • มีสิทธิ โควตาศึกษาต่อ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, โรงเรียนนายสิบ
  • นับอายุราชการเป็นทวีคูณ เมื่อเข้ารับราชการต่อ
  • จัดหางาน/ฝึกอาชีพหลังปลด

⚓ กองทัพเรือ (ทร.)

  • ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเช่นเดียวกับ ทบ.
  • สิทธิ สอบบรรจุเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ
  • สิทธิศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรือ และสายงานเฉพาะทางของกองทัพเรือ
  • โครงการฝึกวิชาชีพด้านช่างเรือและการเดินเรือ

✈️ กองทัพอากาศ (ทอ.)

  • ได้รับเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการเทียบเท่า
  • มีสิทธิ สอบเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารอากาศ
  • โอกาสศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรืออากาศ/สายวิศวกรรมอากาศยาน
  • ฝึกอบรมทักษะเฉพาะ เช่น ช่างอากาศยาน, ระบบสื่อสาร

สอบถามระเบียบ/คำแนะนำการสมัคร

  • หน่วยสัสดีทั่วประเทศไทย 
  • กองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
    โทร. 0-2223-3259
    วันเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ (08.30-16:30)