สคบ. ลงพื้นที่คุ้มครองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องพร้อมตรวจเข้มฉลากสินค้าแผ่นเหล็กเมทัลชีท

        วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นำทีม พร้อมด้วย นายอนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค 2 และเจ้าหน้าที่ สคบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจที่ผลิตและจำหน่ายแผ่นเหล็กเมทัลชีท

        สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคจำนวนมาก เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เมทัลชีทที่เป็นสินค้าที่ผลิตมาจากเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบโลหะที่เคลือบสีและไม่เคลือบสีเพื่อใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย รวมถึงสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ก่อให้เกิดปัญหา ทั้งด้านสุขภาพและความปลอดภัย ไม่มีคุณภาพ เช่น ผิวเคลือบเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว เกิดสนิมภายใน ไม่กี่เดือน ฝุ่นสนิมฟุ้งกระจายกระทบระบบทางเดินหายใจ หรือโครงหลังคาเสียหายเร็วกว่าที่โฆษณาไว้ ซึ่งผลิตภัณฑ์เมทัลชีท (Metal Sheet) ในประเทศไทยต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ที่บังคับใช้ และต้องจัดทำฉลากสินค้าให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนด เช่น ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้าเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในไทย สถานที่ตั้งของผู้ผลิตเพื่อขายหรือของผู้สั่งหรือนำเข้ามาจำหน่ายภายในไทย ความหนาของเนื้อเหล็กก่อนเคลือบและหลังเคลือบ วัน เดือน ปีที่ผลิต/ปีที่หมดอายุ ราคา (ระบุหน่วยเป็นบาท)

        ที่ผ่านมา สคบ. ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องในการตรวจสอบและเฝ้าระวังผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทแผ่นเหล็กเมทัลชีท ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบธุรกิจได้สั่งซื้อเหล็กม้วนมาจากผูประกอบธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตในประเทศไทยและผู้นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยสั่งซื้อมาจากบริษัทที่เป็นผู้ผลิตและเป็นผู้สั่งหรือนำเข้าสินค้าประเภทเหล็กม้วนรายใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเหล็กม้วนดังกล่าวมีการจัดทำฉลากแต่การแสดงฉลากไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึด อายัดสินค้าประเภทแผ่นเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบโลหะที่เคลือบสีและไม่เคลือบสี แผ่นเหล็กหลังคาเมทัลชีทของผู้ประกอบธุรกิจมาเพื่อทำการรอส่งทดสอบพิสูจน์หาชั้นคุณภาพ ความหนาของเนื้อเหล็กก่อนเคลือบ BMT ความหนารวมเคลือบโลหะและเคลือบสี TCTกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการใช้ข้อความบนฉลากสินค้าที่เป็นเท็จเกินจริงหรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญหรือไม่

        ทั้งนี้ สคบ. ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบธุรกิจ ที่จำหน่ายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือ มีฉลากไม่ถูกต้อง โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าการแสดงฉลากเช่นนั้นไม่เป็นไปตามกฎหมายจะมีความผิด ตามมาตรา 52 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับส่วนในกรณีที่เป็นผู้ผลิตเพื่อขาย หรือผู้สั่งหรือนำเข้าสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

        สคบ. จะเดินหน้าตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด และจัดระเบียบการจำหน่ายสินค้าไม่จัดทำฉลาก ฉลากไม่ถูกต้อง เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมขอให้ผู้บริโภค ตรวจสอบฉลากทุกครั้งก่อนซื้อ เพิ่มความระมัดระวังในการซื้อสินค้าช่องทางออนไลน์ ตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้า และข้อมูลการรับประกันก่อนตัดสินใจซื้อ หากผู้บริโภคพบเห็นหรือได้รับ ความเสียหายจากการซื้อสินค้าที่ไม่มีฉลาก หรือฉลากไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเบาะแสหรือขอรับคำปรึกษา ได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 หรือร้องเรียนผ่านทางแอปพลิเคชัน OCPB Connect และเว็บไซต์ www.ocpb.go.th