สทนช. เปิดเผยอ่างเก็บน้ำ 249 แห่งต้องเฝ้าระวัง ทั้งเสี่ยงน้ำมากและน้ำน้อย

สทนช. เปิดเผยอ่างเก็บน้ำ 249 แห่งต้องเฝ้าระวัง ทั้งเสี่ยงน้ำมากและน้ำน้อย

       สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบอ่างเก็บน้ำ 249 แห่งต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะอ่างขนาดใหญ่และกลางที่มีน้ำเกิน 80% และ 32 แห่งที่ต้องเฝ้าระวังภาวะน้ำน้อย

       วันนี้ (22 ก.ย.68) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อติดตามสถานการณ์สภาพอากาศและน้ำ พร้อมประเมินและคาดการณ์ปริมาณน้ำเพื่อบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ห้องประชุมน้ำปิง ชั้น 4 อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

       โดยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21 กันยายน 2568 พบว่ามีอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศจำนวน 249 แห่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำสูงกว่า 80% ซึ่งรวมถึงอ่างเก็บน้ำสำคัญหลายแห่งที่มีปริมาณน้ำเกินความจุแล้ว เช่น อ่างเก็บน้ำแม่มอก ที่มีปริมาณน้ำสูงถึง 103% และอ่างเก็บน้ำที่ใกล้เต็มความจุ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง (89%), อ่างเก็บน้ำอูน (91%), อ่างเก็บน้ำบางพระ (88%), อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา (83%) และ อ่างเก็บน้ำแควน้อยบำรุงแดน (84%)

       อย่างไรก็ตาม ยังมีแหล่งน้ำที่ต้องเฝ้าระวังภาวะน้ำน้อยจำนวน 32 แห่ง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การได้ต่ำกว่า 30% เช่น อ่างเก็บน้ำทับเสลา (22%) อ่างเก็บน้ำลำตะคอง (26%) และ อ่างเก็บน้ำลำนางรอง (27%)

       สำหรับการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ พบว่าอ่างเก็บน้ำหลักมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล (79%) และ เขื่อนสิริกิติ์ (88%) ขณะที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่มีปริมาณน้ำ 76% คาดการณ์ว่าในอีก 7 วันข้างหน้าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นจนเกือบเต็มความจุ ส่งผลให้ต้องเพิ่มการระบายน้ำจาก 43.25 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 56.16 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนเป็นต้นไป ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดตามข่าวสารและประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิด

ที่มา : Facebook NBT Connext