อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เปิดการท่องเที่ยว เกาะละวะใหญ่ เกาะโบยใหญ่ และอ่าวเคียน วันที่ 1 ตุลาคม 2568

อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เปิดการท่องเที่ยว เกาะละวะใหญ่ เกาะโบยใหญ่ และอ่าวเคียน วันที่ 1 ตุลาคม 2568

       อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เตรียมประกาศเปิดการท่องเที่ยว บริเวณเกาะละวะใหญ่ เกาะโบยใหญ่ และอ่าวเคียน วันที่ 1 ตุลาคม 2568 หลังประกาศปิดการท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู ทั้งนี้ มีการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่นิยมเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อน เล่นน้ำทะเล ชายหาดที่สะอาดเงียบสงบ เหมาะสำหรับการปิกนิค และเยี่ยมชมทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 076 481 188 e-mail : aophangnga.np@hotmail.com

       อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาเตรียมประกาศเปิดการท่องเที่ยว บริเวณเกาะละวะใหญ่ เกาะโบยใหญ่ และอ่าวเคียน หลังประกาศปิดการท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาจะเปิดการท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยมีการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่นิยมเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อน เล่นน้ำทะเล ชายหาดที่สะอาดเงียบสงบ เหมาะสำหรับการปิกนิค และเยี่ยมชมทัศนียภาพที่สวยงาม

       เกาะละวะใหญ่ได้รับรางวัลมาตรฐานการบริหารจัดการชายหาดระดับสากล ตามมาตรฐาน ISO 13009 : 2015 Tourism and related services – Requirements and recommendations for beach operation ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก เกี่ยวกับการบริหารจัดการชายหาดที่ครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญ นับตั้งแต่การส่งเสริมและการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับชายหาดเพื่อความเข้าใจของนักท่องเที่ยว ความปลอดภัยในด้านการท่องเที่ยวแนวชายหาดและกิจกรรมทางน้ำที่เกี่ยวข้อง การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากการท่องเที่ยว ตลอดจนความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความยั่งยืน

       เกาะโบยใหญ่ เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่มากนัก อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะยาวน้อย เป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงาม ปกคลุมด้วยผืนป่าซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด มีจุดเด่นที่ป่าโกงกางขนาดใหญ่เกือบ 4,000 ไร่ อยู่ทางด้านตะวันออกและป่าบนเกาะยังอุดมสมบูรณ์มาก สามารถพบนกแก๊ก นกออก ได้ทั่วไป และมักจะมีนกชายเลนอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ตลอดฤดูหนาว