การยืนยันสิทธิ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” ปีงบประมาณ 2570
🎯 ใครมีสิทธิ (คุณสมบัติ)
- 🇹🇭 สัญชาติไทย
- 🗂️ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- 🎂 อายุครบ 60 ปีบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570
- นับอายุถึง วันที่ 1 ก.ย. 2569 (เกิดก่อน 2 ก.ย. 2510)
- หรืออายุเกิน 60 ปีแล้ว แต่ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน
- 💸 ไม่มีรายได้ หรือ รายได้ไม่พอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
🗓️ ช่วงเวลา “ยืนยันสิทธิ/ลงทะเบียน”
- ยืนยันสิทธิ: ตุลาคม – พฤศจิกายน 2568 (ขอความร่วมมือมายืนยันสิทธิให้เสร็จภายในช่วงนี้)
- เก็บตก: มกราคม – กันยายน 2569
📍 ยืนยันสิทธิที่ไหน
- กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเขตที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
- ต่างจังหวัด: ที่ว่าการอำเภอ, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
🧾 เอกสารที่ต้องเตรียม
กรณีไป “ด้วยตนเอง”
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย (ตัวจริง)
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน ที่เป็นปัจจุบัน (ตัวจริง)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ ตัวจริงพร้อมสำเนา (ถ้ารับผ่านธนาคาร)
กรณี “มอบอำนาจให้ผู้อื่น”
- หนังสือมอบอำนาจ (ลงลายมือชื่อผู้มอบอำนาจและพยานครบถ้วน)
- สำเนาบัตรประชาชนผู้มีสิทธิ 1 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้านผู้มีสิทธิ 1 ชุด
- สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ 1 ชุด
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้มีสิทธิหรือบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ 1 ชุด (ถ้ารับผ่านธนาคาร)
หมายเหตุ
- 🏛️ กรณีผู้สูงอายุอยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน: มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถานหรือผู้ได้รับมอบหมาย ยื่นยืนยันสิทธิแทน ณ อปท. ตามภูมิลำเนา
- ✒️ ทุกสำเนา ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง ทุกแผ่น
- บัตรประชาชนต้องไม่หมดอายุ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลักปฏิบัติของแต่ละพื้นที่ โปรดสอบถาม อปท.พืันที่ของท่านอีกครั้งหนึ่ง)
- 📄 แบบฟอร์มมอบอำนาจ/รายชื่อธนาคาร อาจต่างกันตามพื้นที่ ให้สอบถาม อปท.พืันที่ของท่านอีกครั้งหนึ่ง
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางพื้นที่ เริ่มเปิดให้บริการรับยืนยันสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในรูปแบบออนไลน์ เช่น สำนักงานเขตดอนเมือง
💳 วิธีรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (เลือก 1 วิธี)
- รับเงินสดด้วยตนเอง
- รับเงินสดโดยผู้รับมอบอำนาจ
- โอนเข้าบัญชีธนาคา ชื่อผู้มีสิทธิ
- โอนเข้าบัญชีธนาคารชื่อผู้รับมอบอำนาจ
💰 การจ่ายเงินและอัตราเบี้ยยังชีพ
จ่ายเมื่อไร
- จ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน ถ้าตรงวันหยุด รัฐจ่ายวันทำการก่อนหน้า
เริ่มจ่ายตอนไหน
- เริ่มจ่ายเดือนถัดไป หลังยืนยันสิทธิและตรวจคุณสมบัติครบ ยกเว้นผู้ที่เกิดวันที่ 1 รับเงินในเดือนนั้นได้
จ่ายเท่าไร
- จ่ายเป็นรายเดือน อัตราแบบขั้นบันได
- อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับ 600 บาท
- อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับ 700 บาท
- อายุ 80- 89 ปี จะได้รับ 800 บาท
- อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท
หมายเหตุ
- การจ่ายเงินให้ผู้รับมอบอำนาจ: เมื่อยืนยันตัวบุคคลตรงตามมอบอำนาจ และยืนยันว่าผู้มีสิทธิยังมีชีวิตอยู่ ณ วันที่ 1 ของทุกเดือน (จ่ายเต็มเดือน)
- 📝 กรณีรับเงินโดยสุจริตทั้งที่ “ไม่มีสิทธิ”: ให้ อปท. ตรวจข้อเท็จจริง รายงานผู้บริหาร และ ระงับการจ่าย ต่อไป (งดเรียกคืนในกรณีสุจริต)
🏠 การย้ายที่อยู่ (ย้ายภูมิลำเนา)
การยืนยันสิทธิ
- ต้องไปยืนยันสิทธิที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่
การจ่ายเบี้ยยังชีพหลังยืนยัน
- เมื่อยืนยันสิทธิเรียบร้อยแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่จะเริ่มจ่ายใน “เดือนถัดไป” โดยต้องได้รับการยืนยันข้อมูลจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิม
หากไม่ยืนยันสิทธิ
- จะยังได้รับเงินเบี้ยยังชีพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมจนถึงสิ้นปีงบประมาณที่แจ้งย้ายเท่านั้น
กรณีล่าช้า/ยังไม่ดำเนินการ
- หากยืนยันสิทธิไม่ทันภายในปีงบประมาณที่แจ้งย้าย ยังสามารถยืนยันสิทธิภายหลังได้และจะเริ่มรับเงินเบี้ยยังชีพในเดือนถัดไปหลังยืนยัน
สรุป: เมื่อย้ายบ้าน/ภูมิลำเนาแล้ว รีบยืนยันสิทธิที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่ เพื่อไม่ให้ขาดสิทธิการรับเบี้ยยังชีพในอนาคต
🛑 การสิ้นสุดการได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- ผู้มีสิทธิเสียชีวิต
- ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์
- ผู้มีสิทธิ ยื่นสละสิทธิเป็นหนังสือ ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
หมายเหตุ : กรณีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีผู้สูงอายุสิ้นสุดลง ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ สั่งระงับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสำหรับบุคคลดังกล่าวทันที
สอบถามเพิ่มเติม
- กรุงเทพมหานคร สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานเขต
- ต่างจังหวัด สอบถามได้ที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในท้องถิ่น
- กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เบอร์ 02-2419000 ต่อ 4131
Post Views: 864