สำนักงานประกันสังคม เร่งเยียวยาผู้ประกันตน กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

สำนักงานประกันสังคม เร่งเยียวยาผู้ประกันตน กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

           นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยความปลอดภัยของพี่น้องด้านสุขภาพของพี่น้องแรงงาน พร้อมให้การดูแลผู้ประกันตนที่มีมากกว่า 16.5 ล้าน โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดสถานที่ประกอบการกิจการเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน เหตุสุดวิสัย ตามประกาศกฎกระทรวง



           รมต.ว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้กําชับ ให้ สํานักงานประกันสังคม ดูแลเร่งรัดให้ดําเนินการให้ความ ช่วยเหลือ เยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกันตน พร้อมให้บริการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการให้ความช่วยเหลือของ รัฐบาล ตามประกาศ “กฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของ โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยดรคติดต่อ พ.ศ. 2563” เต็มที่ ทั้งนี้ให้นายจ้างยื่นขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัย ให้ลูกจ้าง ผ่าน e-Service

           ผอ.สํานักสิทธิประโยชน์ และ รองโฆษกสนง.ปกสค.นางสาว ลัดดา แซ่ลี้ กล่าวว่าขณะนี้ทางสํานักเร่งให้ความช่วยเหลือ ผู้ประกันตนตามกฎกระทรวงฯ ซึ่งส่งผลให้ลูกจ้างที่ไม่ได้ทํางาน เนื่องจากนายจ้างหยุดประกอบกิจการ ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด เนื่องจากคําสั่งจากทางราชการ ทําให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ ตามปกติ และผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าตอบแทนในระหว่างนั้น มี สิทธิรับประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ในอัตรา 50%ของ ค่าจ้างรายวันแต่ไม่เกิน 90 วัน โดยมีช่องทางการขอรับสิทธิ ประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุโควิด 19 สามารถดําเนินการได้ ตั้งแต่บัดนี้

1. ให้ ลูกจ้าง กรอกแบบคําขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2- 01/7) สามารถดาวน์โหลด ได้ที่ www.sso.go.th แล้วส่งให้ นายจ้างพร้อมแนบสําเนาสมุดบัญชีเงินฝากจ้าง

2. จากนั้นให้ นายจ้าง รวบรวมแบบคําขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01/7) จากลูกจ้าง

3. และบันทึกข้อมูลในระบบ e-Service (www.sso.go.th) ทั้ง ข้อมูลลูกจ้างตาม แบบ สปส.2-01/7 และหนังสือรับรองการหยุด งานกรณีราชการสั่งปิด/กรณีกักตัว (นายจ้างที่ใช้ระบบครั้งแรกต้อง ลงทะเบียนเพื่อใช้ระบบก่อน)

4. ให้นายจ้าง นําส่งแบบคําขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2- 01/7) ของลูกจ้างที่บันทึกข้อมูลในระบบ e-Service ไปที่ สํานักงานประกันสังคมในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ทาง ไปรษณีย์ (ลงทะเบียน) ภายใน 3 วันทําการ นับตั้งแต่วันที่บันทึก ข้อมูลในระบบ e-Service

5. เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมูลถูกต้องครบถ้วน สํานักงาน ประกันสังคมจะโอนเงินเข้าบัญชี ภายใน 5 วันทําการ (กรณีเงินไม่ เข้าบัญชี โทร สายด่วน 1506) เน้นย้ำว่า ลูกจ้างผู้ประกันตนไม่ต้อง เดินทางมายังสํานักงานประกันสังคม และหากดําเนินการดังที่ กล่าวครบถ้วนเงินจะโอนเข้าบัญชีภายใน 5 วันทําการ และรอบตัด จ่ายกําหนดทุกสิ้นเดือนถัดไปหรือจนกว่าจะครบวันที่สถาน ประกอบการมีกําหนดปิด

           อย่างไรก็ตาม ผู้ประกันตนที่จะได้รับสิทธิ ต้องเป็นลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่มีเงินสมทบครบ 6 เดือน ใน 15 เดือน จึงจะเกิดสิทธิรับเงินกรณีว่างงาน แต่ไม่ได้ทํางาน หรือนายจ้างไม่ให้ทํางาน เนื่องจากต้องกักตัว หรือเฝ้าระวังการระบาดของโรค หรือ ไม่ได้ทํางาน เนื่องจากนายจ้างต้องหยุดกิจการไม่ว่าทั้งหมด หรือ บางส่วน เนื่องจากคําสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวจากทางราชการ เพื่อ ป้องกันการระบาดของโควิด 19 ทําให้ไม่สามารถประกอบกิจการ ได้ตามปกติ และลูกจ้างไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น ซึ่งลูกจ้างจะ ได้สิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในอัตราร้อยละ 50 ของ ค่าจ้างรายวัน โดยให้รับตลอดระยะเวลาที่มีการกักตัว หรือเฝ้า ระวังการระบาดของโรค หรือมีคําสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว แล้วแต่ กรณี รวมกันไม่เกิน 90 วัน

 


ที่มา : https://bit.ly/3f3tGZM