กสทช. คุมเข้มมาตรการ SMS ส่งจากต่างประเทศ ใช้ระบบคัดกรอง พร้อมขึ้นสัญลักษณ์เตือนภัยประชาชน
สำนักงาน กสทช. กำหนดมาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ ควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไป โดยแยก SMS จากต่างประเทศออกจากในประเทศ และให้ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายใช้ระบบคัดกรองเนื้อหา (SMS Firewall) หากพบข้อความต้องสงสัยให้ระงับหรือขึ้นเครื่องหมายแจ้งเตือนผู้รับ พร้อมกำหนดให้ผู้ส่ง SMS แบบ A2P ต้องผ่านการยืนยันตัวตน (KYC) และจัดทำ White List ขณะเดียวกันเตรียมบังคับใช้การขึ้นทะเบียน Simbox ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2568 เพื่อสกัดการใช้งานโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์
วันที่ 17 ตุลาคม 2568 สำนักงาน กสทช. มีการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมฯ ครั้งที่ 8/2568 โดยมี พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. เป็นประธาน พล.ต.ต. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พร้อมผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตร. สอท. ปปง. DSI CIB ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสมาคมธนาคารไทย เพื่อติดตามการดำเนินงาน ตามมาตรการที่ กสทช. กำหนดให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดำเนินการ ในการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีการพิจารณาเรื่องสำคัญๆ เช่น มาตรการควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไป โดยแยก SMS ที่ส่งจากต่างประเทศออกจาก SMS ทั่วไป พร้อมกำหนดให้ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายใช้เทคโนโลยีในการคัดกรองเนื้อหา (SMS Firewall) หากต้องสงสัยให้ระงับการส่งต่อ หรือให้ขึ้นเครื่องหมายแจ้งเตือนประชาชนผู้รับข้อความ
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ผลจากที่ กสทช. ได้เริ่มบังคับใช้ 8 มาตรการสำคัญ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ไปเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา ประกอบกับหลายประเทศให้ความสำคัญกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ เช่น สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ที่มีการขึ้นบัญชีดำองค์กรและบุคคล ตลอดจนมีการยึดอายัดทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายแก๊งอาชญากรรม และประเทศเกาหลีใต้ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการในประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าสถิติการโทรหลอกลวงประชาชนมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยยะ แต่กลับมี SMS หลอกลวงมาจากต่างประเทศ เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.2568 เป็นต้นมา ซึ่งได้มีการระงับไม่ส่งต่อ SMS ต้องสงสัยมากกว่า 1 ล้านข้อความต่อวัน ปัญหาดังกล่าว กสทช. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ให้ความสำคัญ โดยในที่ประชุมวันนี้ ได้มีการหารือมาตรการควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไปในรูปแบบ Application-to-Person หรือ A2P
โดยมีแนวทางที่สำคัญ ดังนี้
- ผู้ให้บริการจะต้องจัดแบ่งกลุ่มผู้ส่ง SMS โดยแยกระหว่าง ผู้ส่ง SMS จากต่างประเทศ และผู้ส่ง SMS ในประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ให้บริการได้ให้ความร่วมมือกับ กสทช. ในการคัดกรอง SMS และลิงก์ ซึ่งในบางกรณี เช่น การส่ง SMS ข้ามเครือข่าย อาจต้องใช้เวลามากขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ระบบการยืนยันตัวตนแบบครั้งเดียว (OTP) เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ จึงต้องมีการจัดแบ่งกลุ่ม เพื่อให้การคัดกรอง SMS มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- ผู้ให้บริการจะต้องมีระบบการลงทะเบียนผู้ใช้งานในประเทศ ที่ต้องการส่ง SMS ในรูปแบบ A2P จะต้องมีการยืนยันตัวตน KYC โดยกำหนดให้ผู้ส่ง SMS ในส่วนนี้ ที่ผ่านการคัดกรองมาในระดับหนึ่งเป็น White List และมีการแยกออกจากกลุ่มผู้ส่งจากต่างประเทศอย่างชัดเจน
- ผู้ให้บริการทุกเครือข่าย ต้องมีระบบตรวจสอบคัดกรองเนื้อหา SMS Firewall เพื่อตรวจสอบคัดกรองเนื้อหาที่มีความเสี่ยงไม่ให้ส่งไปยังผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะเน้นหนักไปที่ SMS ที่ส่งมาจากต่างประเทศ และถ้าผ่านการตรวจคัดกรองเบื้องต้นแล้ว ผู้ให้บริการยังจะต้องติดสัญลักษณ์ไว้หน้าข้อความ เพื่อให้ผู้ใช้บริการรับรู้ว่าเป็น SMS ที่ส่งมาจากต่างประเทศควรต้องระวัง เช่น เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) และต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยมาตรการดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการทันที
- การขึ้นทะเบียน Simbox จะเริ่มดำเนินการในเดือน พ.ย.2568 และเฉพาะ Simbox ที่มีการขึ้นทะเบียนเท่านั้นที่จะสามารถใช้งานได้ ส่วนที่เหลือจะไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่โครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ประกอบการได้ อันจะส่งผลให้ Simbox ที่อยู่ในความครอบครองของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ไปโดยปริยาย
ที่มา : Facebook กสทช.
