กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางมีกำลังอ่อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเกิดวาตภัย 1 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลธาตุพนมเหนือ อำเภอธาตุพนม บ้านเรือนเสียหาย13 หลัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางมีกำลังอ่อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเกิดวาตภัย 1 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลธาตุพนมเหนือ อำเภอธาตุพนม บ้านเรือนเสียหาย13 หลัง ขณะที่ในรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 10 – 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีพื้นที่ประสบวาตภัย 17 จังหวัด 38 อำเภอ 56ตำบล 110 หมู่บ้านบ้านเรือนเสียหาย 875 หลัง
ส่วนตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบวาตภัย 54 จังหวัด 248อำเภอ 676 ตำบล 1,948 หมู่บ้านบ้านเรือนเสียหาย10,024 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย (สุราษฎร์ธานีลพบุรี และนครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 2 ราย (สุราษฎร์ธานีและนครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย) แยกเป็น ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชรเชียงราย เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน พิจิตร และพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร เลย ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ อำนาจเจริญอุดรธานี หนองบัวลำภู และอุบลราชธานี ภาคกลาง 15 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท พระนครศรีอยุธยานนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สมุทรปราการสมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี อ่างทอง และอุทัยธานี ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรานครนายก ปราจีนบุรี ระยอง ตราด และสระแก้ว ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” และสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210516134719395