จังหวัดยะลา เข้าขั้นวิกฤต ย่านเศรษฐกิจจม 1 เมตร รองผู้ว่าฯ สั่งระดมเรือ-รถใหญ่เร่งอพยพ
จังหวัดยะลา เข้าขั้นวิกฤต ย่านเศรษฐกิจจม 1 เมตร รองผู้ว่าฯ สั่งระดมเรือ-รถใหญ่เร่งอพยพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ย่านเศรษฐกิจการค้า เขตเทศบาลนครยะลา พบระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ระดับน้ำท่วมขังสูง 80–100 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ได้สั่งการให้นำรถยกสูงและเรือท้องแบนเข้าอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
(24 พ.ย. 68) สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลาเข้าขั้นวิกฤต หลังฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. ส่งผลให้มวลน้ำสะสมจำนวนมากจากเทือกเขาบอยอ ไหลบ่าลงสู่คลองแบเมาะและแม่น้ำปัตตานี จนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำและเขตเศรษฐกิจสำคัญ
นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ย่านเศรษฐกิจการค้า เขตเทศบาลนครยะลา พบระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณ ถนนพิพิธภักดี ย่านธนวิถี หน้าโรงเรียนคณะราษฎรบำรุงฯ โรงเรียนยะลาบำรุงฯ ชุมชนสิโรรส 8 ตลาดเก่า และหน้าสถานีรถไฟยะลา ระดับน้ำท่วมขังสูง 80–100 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ผู้ประกอบการร้านค้าและโรงแรมเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงอย่างโกลาหล
รองผู้ว่าฯ ยะลา ได้สั่งการให้บูรณาการความช่วยเหลือจากทั้ง ปภ. ทหาร และตำรวจ นำรถยกสูงและเรือท้องแบนเข้าอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยทางเทศบาลนครยะลาได้เปิด ศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่าย ดังนี้ โรงเรียนเทศบาล 3, 4 และ 5 TK PARK ยะลา และ อาคารศรีนิบง
ส่วนพื้นที่ เทศบาลเมืองสะเตงนอก และ ต.ท่าสาป รับมวลน้ำหนักหน่วงเช่นกัน นายมะสดี หะยีปินายกเทศมนตรีตำบลท่าสาปได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ เพื่อเร่งอพยพชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้จากสถานการณ์ฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดเหตุดินสไลด์ทับบ้านเรือนในพื้นที่ ต.คีรีเขต อ.ธารโต เมื่อวันที่ 23 พ.ย. เป็นเหตุให้ นายสุภโชค แก้วทอง อายุ 22 ปี เสียชีวิต 1 ราย โดยทางอำเภอธารโตได้เข้าช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวและนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.ปัตตานี ตามระเบียบราชการแล้ว
สรุปภาพรวมความเสียหาย พื้นที่กระทบ 4 อำเภอ 28 ตำบล 104 หมู่บ้าน ผู้เดือดร้อน: 13,753 ครัวเรือน (33,196 คน) ผู้เสียชีวิต 1 ราย การประกาศภัย ประกาศเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 2 อำเภอ
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนภาคใต้ฝนยังตกหนักต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 พ.ย. 68 ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม คือ อ.เบตง, ธารโต, บันนังสตา, กาบัง, ยะหา และเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ อ.เมืองยะลา, รามัน, ยะหา
ทั้งนี้ เขื่อนบางลาง รายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด (24 พ.ย.) มีปริมาณน้ำ 720.88 ล้าน ลบ.ม. (49.6%) ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 733 ล้าน ลบ.ม.
