ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
ศบค.มท. สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หารือ คกก.โรคติดต่อจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมควบคู่มาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 24 อย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ตามที่ทุกจังหวัดได้รับทราบและถือปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2564
เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินไปได้ควบคู่กับการใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรค นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
- มาตรการด้านร้านอาหาร ให้วางมาตรการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้ผู้ประกอบการจัดให้มีมาตรการคัดกรอง จัดระเบียบผู้เข้าใช้บริการ และการเว้นระยะห่าง จำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน งดการรวมกลุ่มหรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ รวมทั้งห้ามการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านตามข้อกำหนดหรือที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด
- มาตรการด้านโรงงาน สถานประกอบการ และแรงงาน จัดเตรียมแผนเผชิญเหตุเพื่อเตรียมการกรณีเกิดการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ในโรงงาน สถานประกอบการ หรือแคมป์คนงาน กรณีที่กำหนดควบคุมโรคโดยหลักการ bubble and seal ในพื้นที่ใด ให้ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แล้ววางมาตรการเฝ้าระวังมิให้มีการลักลอบออกนอกพื้นที่ควบคุมอย่างเด็ดขาด
- ดำเนินมาตรการด้านชายแดนและการลักลอบเข้าเมือง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเรื่องการควบคุมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากประเทศเพื่อนบ้านแบ่งเป็น
- การปฏิบัติในพื้นที่ชายแดน ให้เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ โดยตั้งเครื่องกีดขวาง จัดให้มีการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ บริเวณพื้นที่ชายแดน หากพบการลักลอบเข้าประเทศให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น
- การปฏิบัติในพื้นที่ตอนใน ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรองโรคบุคคล และรถขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านบนเส้นทางที่มีโอกาสจะมีการเดินทางลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ด้วยการคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าเมืองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข คัดกรองรถขนส่งสินค้า รวมทั้งให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident commander : IC) ประจำช่องทางผ่านแดนอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง และการปฏิบัติในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครในพื้นที่ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ สำรวจ ตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน/ชุมชน รวมทั้งบุคคลที่เคยอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน หากพบว่าเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และกรณีพบการละเมิดให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ หากพบแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือมีข้อมูลเบาะแสขบวนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนผู้พบเห็นการกระทำผิดกฎหมายให้แจ้งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/43018