กรมอนามัย แนะแนวทางปฏิบัติตัวผู้อาศัยและผู้ดูแลที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ กรณีต้องแยกกักที่บ้าน หรือ Home Isolation

กรมอนามัย แนะแนวทางปฏิบัติตัวผู้อาศัยและผู้ดูแลที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ กรณีต้องแยกกักที่บ้าน หรือ Home Isolation

           กรมอนามัย แนะแนวทางปฏิบัติตัวผู้อาศัยและผู้ดูแลที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ กรณีต้องแยกกักที่บ้าน หรือ Home Isolation



           นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่เพิ่มขึ้น จำเป็นที่จะต้องมีการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) สำหรับคำแนะนำครอบครัวเพื่อเตรียมความพร้อมกรณีมีผู้ต้องแยกกักตัวอยู่ที่บ้าน คือ ให้แยกส่วนหรือพื้นที่ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 – 2 เมตร หากมีพื้นที่จำกัดให้จัดทำฉากกั้นระหว่างผู้ต้องถูกแยกกักตัวและคนอื่นๆ ในครอบครัว ควรจัดห้องพักให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี มีแสงแดดเข้าถึง ต้องแยกของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ จานชาม ไม่ใช้ปะปน รวมถึงแยกการทำความสะอาดเสื้อผ้า

           การใช้ห้องน้ำ กรณีไม่สามารถแยกห้องน้ำได้ ให้ผู้อื่นใช้ก่อน ส่วนผู้แยกกักตัวให้ใช้เป็นคนสุดท้าย พร้อมทำความสะอาดให้เรียบร้อย ด้วยผ้าชุบน้ำยาฟอกขาวความเข้มข้น 0.1% หรือแอลกอฮอล์ 70% หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5% ควรเตรียมถังขยะมีฝาปิดมิดชิด และของใช้ส่วนตัว ไว้สำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ ทั้งในบริเวณที่นอนและห้องน้ำ หากมีห้องนอนเดียวต้องนอนร่วมกับคนในบ้าน ต้องเปิดประตูหน้าต่างให้โล่ง โปร่งที่สุด พยายามอยู่ห่างจากคนในครอบครัวให้มากที่สุด และวัดไข้ทุกวัน หากพบมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจ ตาแดง ผื่นแดง ถ่ายเหลว หรือหากตรวจวัดค่าออกซิเจน ในเลือดแล้วพบว่ามีค่าต่ำกว่า 95% ให้ไปพบแพทย์ทันที

           ส่วนการปฏิบัติตัวของผู้ที่พักอาศัยและผู้ดูแลที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อในบ้าน คอนโด หรือแฟลต ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่นานอย่างน้อย 20 วินาที แยกของใช้ส่วนตัว แยกกันกินอาหารและไม่ดื่มน้ำร่วมกัน เก็บล้างภาชนะด้วยน้ำยาล้างจาน นำไปผึ่งแดดให้แห้ง เตรียมจัดของใช้สำหรับผู้ต้องแยกกักกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้แยกกักโดยเฉพาะในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ แยกตะกร้าผ้าและแยกซัก

           ส่วนการใช้เครื่องซักผ้าและการตากสามารถรวมกันได้ ควรทำสะอาดบ้านสม่ำเสมอทุกวันด้วยน้ำยาถูพื้นหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับเช็ดพื้นผิว และน้ำยาอเนกประสงค์ บริเวณจุดสัมผัสต่าง ๆ สำหรับการกินอาหาร ต้องเน้น ปรุงสุก กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาด 6-8 แก้วต่อวัน พักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมผ่อนคลาย เพื่อลดภาวะเครียด และในแต่ละวันให้รวบรวมขยะ หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วไว้ในถุง ก่อนทิ้งให้ใส่น้ำยาฟอกขาว 2 ฝา ก่อนใส่ถุงอีกชั้น ปิดปากถุงให้สนิท พื้นที่ส่วนกลางต้องทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน และเพิ่มความถี่ในจุดเสี่ยงโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ

 


ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210715112908255