ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
กรมอนามัย แนะนำหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เร่งรับวัคซีนโควิด เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน
กรมอนามัย แนะนำหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เร่งรับวัคซีนโควิด เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน หลังพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อจากครอบครัวเพิ่ม อัตราเสียชีวิตสูงในกลุ่มมีโรคเสี่ยง
นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ และโฆษกกรมอนามัย กล่าวในการแถลงข่าวออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊คกระทรวงสาธารณสุข ว่า ขณะนี้กลุ่มสตรีตั้งครรภ์มีการติดเชื้อโควิด 19 สะสม 2,327 ราย เฉลี่ยติดเชื้อวันละ 50-60 รายต่อวัน เสียชีวิต 53 ราย มีทารกเสียชีวิต 23 ราย แต่การฉีดวัคซีนกลุ่มนี้ยังน้อย ฉีดไปเพียง 20,000 ราย จากที่มีการตั้งครรภ์ปีละประมาณ 500,000 ราย ทั้งนี้จากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อแล้วเสียชีวิตทั้ง 53 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ที่พบมากคือ แม่อายุเกิน 35 ปี มีโรคเบาหวาน ความดันสูง มีโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น ธาลัสซีเมีย อ้วน และใช้สารเสพติด โดยในกลุ่มที่เสียชีวิตนี้ 22 ราย แต่เพิ่งฉีดได้ไม่กี่วันก็ติดเชื้อ นอกนั้นยังไม่ได้ฉีด ทั้งนี้การติดเชื้อของผู้เสียชีวิตครึ่งหนึ่งติดเชื้อในครอบครัว
ดังนั้นหากมีความเสี่ยงคนในครอบครัวติดโควิด ควรรับการตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วยชุดตรวจ ATK ก่อนได้เลย ทั้งนี้สตรีมีครรภ์ติดเชื้อเทียบกับหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ติดเชื้อพบว่า มีโอกาสเข้า ICU สูงกว่า 2-3 เท่า ใช้เครื่องหายใจสูง 2.6- 2.9 เท่า โอกาสเสียชีวิตตัวเลขในประเทศไทย 1.5-8 คนใน 1,000 คน ถือว่าค่อนข้างสูง และมีโอกาสที่ทารกจะคลอดก่อนกำหนด 1.5 เท่า เสียชีวิตหลังคลอด 2.8 เท่า ทารกมีโอกาสเข้าไอซียู 4.9 เท่า โอกาสที่ทารกติดเชื้อ ร้อยละ 3.5 แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปจึงรีบควรรีบไปรับวัคซีน เมื่อรับวัควีนแล้วหลังคลอดสามารถให้นมลูกได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม กรณีหญิงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์นั้น อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปขอให้ไปฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยสูตรที่เร่งสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด คือ สูตรซิโนแวคเข็มแรก ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า เป็นเข็มที่ 2 โดยไม่ต้องกลัวเรื่องผลข้างเคียง เพราะไม่ต่างจากคนทั่วไป และไม่ได้เพิ่มอัตราการแท้งตามธรรมชาติแต่อย่างใด ยังคงที่อยู่ที่ 10-12 สำหรับแม่ที่ฉีดวัคซีนสามารถให้นมลูกได้ตามปกติ แต่ม่ที่ป่วยต้องกินยาฟาวิพิราเวียร์ ต้องงดให้นมลูก เพราะยาขับออกมาทางน้ำนม ซึ่งยาจะส่งผลเสียต่อเด็กได้
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210819172001078
