กรมควบคุมโรค เตือนผู้ป่วยวัณโรคให้กินยารักษาให้ครบสูตร อย่าหยุดยาเองอย่างเด็ดขาด

กรมควบคุมโรค เตือนผู้ป่วยวัณโรคให้กินยารักษาให้ครบสูตร อย่าหยุดยาเองอย่างเด็ดขาด

          กรมควบคุมโรค เตือนผู้ป่วยวัณโรคให้กินยารักษาให้ครบสูตร อย่าหยุดยาเองอย่างเด็ดขาด โดยในกลุ่มของผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา พบผู้ป่วยรายใหม่แล้ว 1,221 ราย บางรายดื้อยาที่ใช้รักษาถึง 4 ขนาน สาเหตุสำคัญของเชื้อวัณโรคดื้อยาเกิดมาจากผู้ป่วยกินยาไม่ครบตามสูตรที่แพทย์กำหนดและกินยาไม่ต่อเนื่อง



          นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาวัณโรคของไทย ขณะนี้แยกเป็น 3 กลุ่มคือ ประชาชนทั่วไป วัณโรคดื้อยาหลายขนาน และวัณโรคในผู้ติดเชื้อเอชไอวี

          สำหรับในกลุ่มของผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา พบผู้ป่วยรายใหม่แล้ว 1,221 ราย บางรายดื้อยาที่ใช้รักษาถึง 4 ขนาน สาเหตุสำคัญของเชื้อวัณโรคดื้อยาเกิดมาจากผู้ป่วยกินยาไม่ครบตามสูตรที่แพทย์กำหนดและกินยาไม่ต่อเนื่อง โดยมักเกิดขึ้นหลังจากที่ได้กินยารักษาไปแล้ว 2 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยคิดว่าหายแล้วจึงไม่กินยาต่อ ทำให้เชื้อที่อยู่ในปอดไม่ตาย และพัฒนาตัวเองเป็นชนิดดื้อยา และผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อชนิดดื้อยานี้สู่คนรอบข้างได้จากการไอจาม ส่งผลให้การรักษามีความยุ่งยากขึ้น ต้องใช้ยาที่แรงขึ้นและใช้เวลารักษานานขึ้น อย่างน้อย 20 เดือน และอัตราการรักษาหายขาดมีประมาณร้อยละ 50 เท่านั้น

          ด้านแพทย์หญิงผลิน กมลวัทน์ ผู้อำนวยการกองวัณโรค กล่าวย้ำเตือนขอให้ผู้ป่วยวัณโรคทุกราย กินยาให้ครบตามจำนวนที่แพทย์สั่งรักษา อย่าขาดยาหรือหยุดยาเองอย่างเด็ดขาด และไปพบแพทย์ตามนัดจนกว่าแพทย์จะสั่งหยุดยา โดยยาที่ใช้รักษาในปัจจุบันมีประสิทธิภาพดีมาก ใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 6-8 เดือน ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่ต้องใช้เวลา 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี หากกินยาได้ครบถ้วน จะหายขาด100%

          พร้อมแนะประชาชนให้สังเกตสัญญานป่วยวัณโรค หากมีอาการไอแห้งๆ ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ขึ้นไป ผอมลง มีไข้ช่วงบ่ายๆ ค่ำๆ ให้รีบไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง ส่วนผู้ที่ป่วยแล้ว ขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนอื่น ในส่วนอาหารยังรับประทานอาหารได้ทุกชนิด แต่ขอให้งดดื่มเหล้า สูบบุหรี่และสารเสพติดทุกชนิด และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด เพราะหากผู้ป่วยวัณโรคติดเชื้อโควิด-19 จะทำให้มีอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 


ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210822212140936