กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยพบเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาแตกลูกเป็นสายพันธุ์ย่อย ไทยพบแล้ว 4 สายพันธุ์

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยพบเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาแตกลูกเป็นสายพันธุ์ย่อย ไทยพบแล้ว 4 สายพันธุ์

          กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยพบเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาแตกลูกเป็นสายพันธุ์ย่อย ไทยพบแล้ว 4 จาก 22 สายพันธุ์ย่อยที่พบทั่วโลก เร่งถอดรหัสพันธุกรรมต่อถึงสิ้นปี เพื่อดูว่าจะร้ายกว่าตัวหลัก และมีผลต่อวัคซีนหรือไม่



          นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยว่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังคงฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สุ่มตรวจเชื้อกว่า 2,000 ตัวอย่าง ภาพรวมวันที่ 14-20 ส.ค.64 ภาพรวมทั้งประเทศ สายพันธุ์ Delta (อินเดีย) กินสัดส่วนมากสุดที่ 92.9% และกระจายไปในทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว

          สายพันธุ์ Alpha (อังกฤษ) ที่เดิมระบาดมากตอนนี้เหลือ 5.8%

          ขณะที่สายพันธุ์ Beta (แอฟริกาใต้) พบ 1.3% พบเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ มากสุดคือ นราธิวาส ที่ติดกับประเทศมาเลเซียของเดิม เชื่อหากคุมดีจะเหลือแค่นราธิวาส และจะปิดจบสายพันธุ์นี้ในประเทศไทยได้

          นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่าสายพันธุ์เดลตามีการแตกลูกหลาน ออกมาเป็นสายพันธุ์ย่อยด้วย เช่นเดียวกับที่พบในอังกฤษ เดนมาร์ก สเปน และอีกหลายที่ที่มีรายงานการพบสายพันธุ์ย่อยของ Delta จึงไม่ใช่สายพันธุ์ไทย และยังไม่ทราบว่ามีความรุนแรงหรือไม่ โดยจะทำการถอดรหัสพันธืกรรมเชื้อเพิ่มเติมไปจนถึงสิ้นปีนี้

          ด้าน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากฐานข้อมูล GISAID ที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยช่วยกันป้อนข้อมูลรหัสพันธุกรรมทางจีโนมของตัวอย่างทั้งหมดที่ถอดได้อัปโหลดขึ้นบนฐานข้อมูล เพื่อแลกเปลี่ยนกัน พบว่าเชื้อสายพันธุ์ Delta B.1.617.2 ได้กลายพันธุ์ไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 60 ตำแหน่ง เกิดเป็นสายพันธุ์ย่อย AY.1-AY.22

          ส่วนสายพันธุ์ย่อยนี้ มีพบในประเทศไทย 4 ตัว ได้แก่ AY.4 พบ 4 รายที่ปทุมธานี AY.6 ไม่ระบุพื้นที่ 1 ราย AY.10 พบ ใน กทม. 1 ราย และ AY.12 พบ 1 ราย ใน กทม. เช่นกัน

          ส่วนกรณีเพิ่งสังเกตว่ามีสายพันธุ์ย่อยเกิดขึ้น ทั้งที่สายพันธุ์ก่อนหน้านี้ไม่พบ เนื่องจาก Delta แพร่กระจายระหว่างคนสู่คนได้มากกว่า โอกาสกลายพันธุ์และเกิดสายพันธุ์ย่อยจึงมากกว่า อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลมากพอแต่ที่นักวิทยาศาสตร์สนใจและจะติดตามต่อคือเชื้อสายพันธุ์ย่อยนี้จะมีอิทธิฤทธิ์อย่างไร ดื้อต่อวัคซีนที่มีหรือไม่ ซึ่งทั่วโลกกำลังติดตามเพื่อหาคำตอบ

 


ที่มา : https://bit.ly/3ko7got