ศบค.ย้ำข้อกำหนดพื้นที่สถานการณ์ จำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด สอดคล้องกับสถานการณ์

ศบค.ย้ำข้อกำหนดพื้นที่สถานการณ์ จำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด สอดคล้องกับสถานการณ์

          โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยข้อกำหนดพื้นที่สถานการณ์ จำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด ซึ่งขณะนี้ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม ยังคงเป็น 29 จังหวัด เป็นการประกาศมาตรการเพื่อการควบคุมโรคและการใช้ชีวิตประจำวันรูปแบบใหม่ หรือ new normal คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด



          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ข้อกำหนดพื้นที่สถานการณ์ จำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด ซึ่งขณะนี้ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม ยังคงเป็น 29 จังหวัด เป็นการประกาศมาตรการเพื่อการควบคุมโรคและการใช้ชีวิตประจำวันรูปแบบใหม่ หรือ new normal คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

          ห้ามจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 25 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 100 คน

          ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมมาตรการภาครัฐและแผนการเกี่ยวกับการจัดหาและจัดสรรวัคซีน ยา เครื่องมือแพทย์ โรงพยาบาลสนาม สถานพยาบาลและเร่งประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ทั้งส่วนบุคคล องค์กร ผู้ประกอบการแต่ละประเภทรับทราบและแนะนำแนวปฏิบัติ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เตรียมความพร้อมปฏิบัติตนโดยเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด หรือมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล universal prevention for covid-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ให้ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบองค์กร หรือหน่วยตรวจสอบ กำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร covid free setting ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรคของสถานที่กิจการ หรือกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบังคับใช้ในอนาคต โดยให้มีการประเมินผลภายใน 1 เดือน

          ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 14.00 น. ของวันรุ่งขึ้น การปฏิบัติการนอกสถานที่ทำงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและเอกชน work from home ให้ดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ ไปอีก 14 วัน จนถึงวันที่ 14 กันยายน สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำกับดูแล และติดตามการดำเนินการของสถานกิจการ หรือกิจกรรมในพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่ได้รับการปรับมาตรการ โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท ให้สามารถใช้อาคาร หรือสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนการสอบการ ฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่มีเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด

          สำหรับร้านอาหารให้เปิดจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ได้ไม่เกิน 20.00 น. ห้ามจำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน และนั่งในร้านได้ไม่เกินร้อยละ 50 สำหรับในห้องแอร์ แต่หากเป็นพื้นที่เปิดมีอากาศถ่ายเท เช่น ร้านขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย ให้มีจำนวนผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 75 โดยให้บังคับใช้กับร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือ community mall ด้วย

          ส่วนนอกห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาม ตัดผมหรือแต่งผม ในห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดดำเนินการได้/ สถานประกอบการสุขภาพหรือสถานประกอบการนวดไทยเปิดให้บริการเฉพาะนวดเท้า/ ตลาดนัดเปิดดำเนินการได้ตามปกติจนถึง 20.00 น. จำหน่ายเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค

          ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า community mall สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติจนถึง 20:00 น. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงามเปิดดำเนินการและให้บริการผ่านการนัดหมาย สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสถานประกอบการนวดแผนไทยให้เปิดบริการได้โดยผ่านการนัดหมาย ส่วนสถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ สระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ตู้เกม ร้านเกม การจัดเลี้ยงหรือจัดประชุม ยังคงปิดดำเนินการไว้ก่อน

          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเดินทางข้ามจังหวัดและการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปยังพื้นที่อื่นสามารถทำได้ แต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนเดินทางต่อเมื่อมีเหตุจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและแพร่โรค

          สำหรับการให้บริการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะทุกประเภทในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและการขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดทุกประเภททั่วราชอาณาจักร ให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค. กำหนด โดยจำกัดผู้โดยสารใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้โดยสาร อย่างไรก็ตามมาตรการต่างๆจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กันยายนนี้ เป็นต้นไป และจะมีการประเมินอีกครั้ง หลังบังคับใช้ไปแล้ว 14 วัน

 


ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210830135557758