ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยการเพิ่มวงเงินสนับสนุน 4 มาตรการของรัฐบาล ลดภาระค่าครองชีพ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เห็นควรให้ความเห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนในโครงการของรัฐ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ให้แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เห็นควรให้ความเห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนในโครงการของรัฐ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ตลอดจนเพื่อพยุงและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ผ่านการเพิ่มอุปสงค์การบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ประกอบด้วย
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน จำนวนกว่า 13 ล้านคน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 500 บาทต่อคนต่อเดือนในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน จำนวนกว่า 2.3 ล้านคน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 500 บาทต่อคนต่อเดือนในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่าย รอบที่ 3 จำนวน 1,500 บาทต่อคน ในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2564 โดยนำไปรวมกับวงเงินคงเหลือจากรอบที่ 1 และ 2 โดยอัตโนมัติ ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์จำนวนไม่เกิน 28 ล้านคน
- โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพิ่มวงเงินสนับสนุนบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher) ของรัฐ จำนวน 3,000 บาทต่อคน ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์จำนวนไม่เกิน 1 ล้านคน ทั้งนี้จะได้รับสิทธิ e-Voucher รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 10,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลล่าสุดวานนี้ (18 ต.ค. 64) มีผู้ใช้สิทธิ์สะสมทั้ง 4 โครงการรวมกว่า 40 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมกว่า 1.1 แสนล้านบาท โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ยังสามารถลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ของทุกวัน ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง จนกว่าจะครบ 28 ล้านสิทธิ์ ซึ่งยังมีสิทธิ์เหลือกว่า 2 แสนสิทธิ์ สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ์ซึ่งยังมีสิทธิคงเหลือกว่า 5.2 แสนสิทธิ์
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG211019190321696
