หน่วยงาน พม. ชายแดนใต้ เร่งทำแผนฉุกเฉินและแผนจำลองเหตุการณ์ หลังเกิดเหตุคาร์บอม จ.ยะลา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สั่งหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา เร่งทำแผนฉุกเฉินและแผนจำลองเหตุการณ์ หลังเกิดเหตุคาร์บอม จังหวัดยะลา พร้อมสั่งเข้มงวดรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
วันนี้ (18 มี.ค. 2563) เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference กับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา (พมจ.ยะลา) และ ทีม One Home พม. จังหวัดยะลา ได้แก่ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ (บ้านทักษิณยะลา) จังหวัดยะลา และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดยะลา ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุคนร้ายใช้รถยนต์ลอบวางระเบิดบริเวณประตูทางเข้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เมื่อวานนี้ (17 มี.ค. 63) ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ทั้งหมด 25 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ประชาชน และสื่อมวลชน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ในส่วนของหน่วยงานกระทรวง พม. ทั้ง 2 แห่ง ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ทำให้ประตูและกระจกหน้าต่างของอาคารแตกกระจาย และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงผู้สูงอายุหญิง 1 ราย เกิดอาการตกใจจากเสียงระเบิด ทั้งนี้ จึงสั่งการให้เร่งซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น และให้นักสังคมสงเคราะห์ฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจทั้งเจ้าหน้าที่และผู้รับบริการ
นายจุติฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ ทาง พมจ.ยะลา และทีม One Home พม. จังหวัดยะลา ได้ให้ความช่วยเหลือตามภารกิจกระทรวง พม. โดยจะนำเรื่องของผู้ประสบภัยเข้าพิจารณาเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์สำหรับเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส และส่งนักสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจผู้ประสบภัยและครอบครัว อีกทั้งประสานเรื่องเงินเยียวยาจากจังหวัดยะลา สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่จัดทำแผนฉุกเฉิน ภายใต้สถานการณ์วิกฤติ ว่าใครต้องทำงานอะไรและอย่างไรบ้าง รวมทั้งการจัดทำเอกสารต่างๆ และจัดทำแผนบังคับบัญชาหลายระดับ โดยแบ่งกลุ่มทำงานหลายกลุ่ม เพื่อให้สามารถทำงานแทนกลุ่มที่ไม่สามารถทำงานได้จากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย รวมทั้งจัดทำแผนจำลองเหตุการณ์ต่างๆ อาทิ การลอบวางระเบิด และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นต้น
นายจุติฯ กล่าวต่ออีกว่า ตนมีความห่วงใยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงเพราะอยู่ติดพื้นที่ชายแดนประเทศมาเลเซียที่ได้ประกาศปิดประเทศ ในขณะนี้ ตนจึงขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ในพื้นที่ปฏิบัติตนอย่างเข้มงวดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้งใช้เทคโนโลยีการสื่อสารต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และจัดทีมทำงานสำรองหลายทีม เพื่อผลัดกันปฏิบัติงานลงพื้นที่นอกสถานที่และปฏิบัติงานในสำนักงานเป็นการหลีกเลี่ยงความแออัดในสถานที่ทำงาน
นายจุติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ สาเหตุที่ตัวเลขของประเทศไทยมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เพราะความประมาท โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ คนที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่จะกลับบ้านเพื่อไปเยี่ยมครอบครัว และผู้สูงอายุที่อยู่ที่บ้าน คนเหล่านี้คือกลุ่มเปราะบาง ควรต้องงดการเดินทางออกไปก่อน ซึ่งปัจจุบันมีวิธีอื่นในการสื่อสารกับครอบครัวที่อยู่ไกลกัน ขณะเดียวกันนักศึกษาที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ควรมีหน่วยงานสาธารณสุข และ อพม. ลงไปตรวจสอบและช่วยดูแล เพื่อสอนวิธีว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไรในการอยู่ร่วมกับครอบครัว ต้องแยกตัว และใช้ห้องน้ำแยกต่างหาก หรือควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำทำความสะอาดก่อนคนอื่นในครอบครัวจะใช้ต่อ เป็นต้น
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/27488