การกักกันตัวในสถานที่กักกันเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย

ประเภทของสถานที่กักกัน

สถานที่กักกันทางเลือก (Alternative Quarantine : AQ)

    1. ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางน้ำและทางอากาศ ทั้งผู้ที่มีสัญชาติไทย/ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เฉพาะผู้ที่มีสัญชาติไทย
    2. ผู้ที่ประสงค์เข้ารับการกักตัวใน AQ โดยผู้นั้นพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
    3. ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้เดินทาง กรณีมีภารกิจหรือกิจกรรมที่สัมผัสใกล้ชิด
    4. ผู้ที่มีสัญชาติไทยกลุ่มเปราะบาง/ประสบปัญหาตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการต่างประเทศกำหนด
    5. เจ้าหน้าที่รัฐที่กลับจากปฏิบัติราชการ/ภารกิจนอกราชอาณาจักร (เบิกค่าใช้จ่ายได้)

สถานที่กักกันของรัฐ (State Quarantine : SQ)

    1. ผู้ที่มีสัญชาติไทยที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางบก รัฐจะเป็นผู้รับปิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักกันตัว
    2. ผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือเสี่ยงสูง ทั้งผู้ที่มีสัญชาติไทย/ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย
    3. ผู้เดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ทั้งผู้ที่มีสัญชาติไทย/ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย

สถานที่กักกันในรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organization Quarantine : OQ) ประเภท ก

    1. เจ้าหน้าที่รัฐที่กลับจากปฏิบัติราชการ/ภารกิจนอกราชอาณาจักร
    2. ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของหน่วยงาน สถานประกอบการ หรือแรงงานไทย ที่เดินทางกลับประเทศตามที่กระทรวงแรงงานกำหนด
    3. ผู้ที่มีสัญชาติไทยกลุ่มเปราะบาง/ประสบปัญหาตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการต่างประเทศกำหนด

สถานที่กักกันในรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organization Quarantine : OQ) ประเภท ข และ ค

    1. ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรปฏิบัติภารกิจของหน่วยงาน
    2. ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้เดินทาง กรณีมีภารกิจหรือกิจกรรมที่สัมผัสใกล้ชิด

สถานที่กักกัน Hospital Quarantine (HQ)

    • ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่มาจากประเทศ/พื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โดยใช้งบประมาณของรัฐบาล

สถานที่กักกัน Alternative Hospital Quarantine (AHQ)

    • ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่มาจากประเทศ/พื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โดยผู้เข้ารับการกักกัน/สถานพยาบาลเอกชน รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

การปฏิบัติตัวผู้ถูกกักกัน และผู้อยู่ร่วมอาศัย

  1. อยู่ในที่พักอาศัย 14 วัน นับจากวันเดินทางถึงประเทศไทย 
  2. ไม่รับประทานอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น
  3. งดใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็คตัว หมอน ผ้าห่ม แก้วน้ำ
  4.  ล้างมือบ่อยๆ
    • ด้วยน้ำและสบู่นาน 20 วินาทีขึ้นไป หรือ
    • แอลกอฮอล์ 70% ลูบมือจนแห้ง
  5. เมื่อต้องอยู่กับผู้อื่น
    • ต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย
    • อยู่ห่างกัน ไม่น้อยกว่า 1 เมตร หรือหนึ่งช่วงแขน
  6. หลีกเลี่ยงการพูดคุย ใกล้ชิดกับคนอื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง
  7. การทิ้งหน้ากากอนามัย ให้ทิ้งใส่ถุงพลาสติก ปิดถุงให้สนิท ก่อนทิ้งลงถังขยะที่ปิดมิดชิด จากนั้นทำความสะอาดมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ 70% ทันที
  8. การทำความสะอาด
    • ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู หรืออื่นๆ ด้วยผงซักฟอกและน้ำธรรมดา หรือซักด้วยน้ำร้อน อุณหภูมิ 70 – 90 องศาเซลเซียส
    • ทำความสะอาดบริเวณที่พัก ด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% (น้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำสะอาด 99 ส่วน) หรืออาจเช็ดผิวสัมผัสด้วยแอลกอฮอล์ 70%
  • วัดอุณหภูมิร่างการของตนเองทุกวัน
  • สังเกตอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บขอ หายใจลำบาก ครั่นเนื้อตัว และอื่นๆ
  • บันทุกในรายงานที่กำหนดเป็นประจำทุกวัน จะมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มาติดตามอาการทุกวัน
  • หากมีอุณหภูมิร่างการ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือพบอาการผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบทันที
  • ผู้อาศัยร่วมบ้านทุกคนล้างมือบ่อยๆ
    • ด้วยน้ำและสบู่นาน 20 วินาทีขึ้นไป หรือ
    • แอลกอฮอล์ 70% ลูบมือจนแห้ง
  • หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด และควรนอนแยกกับผู้ถูกกักกันหรือคุมไว้สังเกต
  • เมื่อต้องอยู่กับผู้ถูกกักกันหรือคุมไว้สังเกต
    • ควรสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย
    • อยู่ห่างกัน ไม่น้อยกว่า 1 เมตร หรือหนึ่งช่วงแขน
  • ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ถูกกักกันหรือคุมไว้สังเกต
  • หากต้องรับประทานอาหารร่วมกัน ให้แยกชุดอาหารและนั่งห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร
  • การทำความสะอาด
    • ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู หรืออื่นๆ ด้วยผงซักฟอกและน้ำธรรมดา
    • ทำความสะอาดบริเวณที่พัก ด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% (น้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำสะอาด 99 ส่วน) หรืออาจเช็ดผิวสัมผัสด้วยแอลกอฮอล์ 70% พร้อมสวมอุปกรณ์ป้องกันคนเอง เช่น ถุงมือ หน้ากาก แว่นตาขนาดใหญ่
  • สังเกตอาการเจ็บป่วยของตนเอง 14 วัน หลังสัมผัสใกล้ชิดผู้ถูกกักกันหรือคุมไว้สังเกตครั้งสุดท้าย