กระทรวงคมนาคม สั่งจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่ รถ เรือ อุปกรณ์ พร้อมปฏิบัติงานทันที

           กระทรวงคมนาคม สั่งจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่ รถ เรือ อุปกรณ์ พร้อมปฏิบัติงานทันที โดยจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5 ศูนย์ ได้แก่

• ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช
• ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี
• ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร
• ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4
• ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 6

           พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่รวม 30 นาย เรือ 11 ลำ รถ 13 คัน ถุงยังชีพจำนวน 140 ชุด และน้ำดื่ม 10,800 ขวด เพื่อเตรียมพร้อมออกปฏิบัติงานช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

           นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สั่งการให้กรมเจ้าท่าเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ หลังจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 5 – 8 เมษายน 2565 บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จึงจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 และสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 6 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่รวม 30 นาย เรือ 11 ลำ รถ 13 คัน ถุงยังชีพจำนวน 140 ชุด และน้ำดื่ม 10,800 ขวด เพื่อเตรียมพร้อมออกปฏิบัติงานช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

           เบื้องต้นสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช นำน้ำดื่ม 1,200 ขวด ไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ บ้านปากน้ำ หมู่ที่ 3 ตำบลสิชล , บ้านนาขอม หมู่ที่ 4 ตำบลสิชล, บ้านนากลาง หมู่ที่ 9 ตำบลสิชล และหมู่ที่ 5 ตำบลสี่ขีด อ.สิชล พร้อมเน้นย้ำให้กรมเจ้าท่า โดยศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สำรวจสภาพระดับน้ำในพื้นที่และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที

ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220406111218786