กรุงเทพมหานคร เตือนเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด เด็กเล็ก 0-4 ปี ขยายเตียงรองรับหลังสงกรานต์

กรุงเทพมหานคร เตือนเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด เด็กเล็ก 0-4 ปี ขยายเตียงรองรับหลังสงกรานต์

         กรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขเตือนเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด 19 ในเด็กเล็ก 0-4 ปี พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมขยายเตียงรองรับหลังสงกรานต์ และเร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย ร่วมกับ กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 อย่างใกล้ชิดทุกกลุ่มอายุ และกลุ่มเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุ 0-4 ปี เนื่องจากยังไม่ได้รับวัคซีน


 

         นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขเตือนเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด 19 ในเด็กเล็ก 0-4 ปี พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมขยายเตียงรองรับหลังสงกรานต์ และเร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย ร่วมกับ กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 อย่างใกล้ชิดทุกกลุ่มอายุ และกลุ่มเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุ 0-4 ปี เนื่องจากยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งพบว่า การป่วยและความรุนแรงของโรคกลุ่มเด็กเล็ก 0-6 เดือน เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ที่ป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มวัยอื่น สำหรับการเตรียมความพร้อมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของ กทม. เพื่อรองรับการรักษากลุ่มเด็กเล็กที่ติดเชื้อโควิด 19 สำนักการแพทย์ ได้เน้นย้ำโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ซึ่งมีกุมารแพทย์ประจำทุกแห่ง ให้การดูแลผู้ป่วยเด็กเล็กที่มีผลยืนยันติดโควิดอย่างเร่งด่วน เตรียมความพร้อมรอบด้าน ประเมินอาการ ให้การรักษา และประสานส่งต่อผู้ป่วยไปศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลทั่วไป รวมถึงสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย โดยมีศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ สายด่วน 1669 ประสานส่งต่อเครือข่าย

         ทั้งนี้ การดูแลป้องกัน เมื่อเด็กปฐมวัยติดเชื้อ หากผู้ปกครองมีผลบวก และเด็กติดเชื้อโควิดด้วย จะใช้ระบบการรักษาแบบครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาลหรือศูนย์พักคอย แต่ถ้าเด็กติดเชื้อแล้วผู้ปกครองไม่ติดเชื้อก็จะอนุญาตให้ผู้ปกครอง สามารถอยู่ระหว่างการรักษาได้ แต่จะไม่แนะนำให้ปู่ย่า ตายาย หรือคนในครอบครัวที่สูงอายุดูแลเด็กที่ติดเชื้อเนื่องจากอาจจะติดเชื้อโควิด 19 ได้ รวมทั้งการเน้นย้ำผู้ปกครอง

         สังเกตอาการและประเมินเด็กในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กเล็กมีภาวะโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ฯลฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ส่วนพ่อแม่ติดเชื้อ และเด็กไม่ติดเชื้อ กรณีนี้หากมีญาติสามารถที่จะดูแลเด็กได้ก็ให้ดูแลต่อ แต่หากไม่มีผู้ที่จะดูแลเด็กทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็จะเป็นหน่วยงานที่เข้ามาประสานและช่วยดูแลต่อ

 


ที่มา : https://bit.ly/35QGj9N