ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจ 5 พฤติกรรมเสี่ยงติดโควิด 19 ช่วงเทศกาลสงกรานต์
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจ “5 พฤติกรรมเสี่ยงติดโควิด 19 ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้” ย้ำเตือนตรวจ ATK สม่ำเสมอ ลดการแพร่เชื้อ ป้องกันตนเองสูงสุด
จากผลการสำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพของกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ผ่านระบบออนไลน์ (Google Form) ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม – 5 เมษายน 2565 พบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมเสี่ยงติดโควิด 19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 5 อันดับ ดังนี้
1. พฤติกรรมการไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า หรือตลาดสดด้วยตนเอง ร้อยละ 74
2. พฤติกรรมการไปพบปะกราบขอพรผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุที่ไม่พบกันมานาน ร้อยละ 58.8
3. พฤติกรรมการกินอาหารร่วมกันกับญาติมิตร ร้อยละ 48.5
4. พฤติกรรมการรวมกลุ่มตามที่เคยทำในเทศกาลสงกรานต์ ร้อยละ 41.1
5. พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนาด้วยรถโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 23.3
เพื่อป้องกันการติดโควิด 19 ที่มีการติดเชื้อง่ายและแพร่กระจายได้รวดเร็ว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ประชาชนส่วนใหญ่ต้องกลับภูมิลำเนาพบญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ การจับจ่ายซื้อของด้วยตนเอง ทั้งในห้างสรรพสินค้าและตลาดสด และมีการกินอาหารร่วมกันกับญาติมิตรดังกล่าวนี้ ล้วนเป็นพฤติกรรมเสี่ยงโควิด 19 ดังนั้นเพื่อให้การฉลองเทศกาลสงกรานต์นี้ปลอดภัยไม่เสี่ยง ขอความร่วมมือให้ทุกคนในครอบครัวปฏิบัติตัว ตามหลักพฤติกรรมการป้องกันตนเองสูงสุดแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่นล่วงหน้าอย่างน้อย 3 – 5 วัน และตรวจ ATK ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทางให้เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อพูดคุยกัน และใช้สำรับอาหาร จาน ชาม ช้อน แก้ว อุปกรณ์ส่วนตัว และเน้นย้ำให้ผู้ที่มีอาการสงสัยว่าติดเชื้อโควิด 19 สัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีความเสี่ยงติดโควิด 19 ให้รีบตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เพื่อลดการแพร่กระจายไปยังผู้สูงอายุและเด็กในครอบครัว นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยผู้สูงอายุควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ก่อนเทศกาลสงกรานต์ โดยสงกรานต์นี้เชิญชวนทุกท่านพร้อมกันร่วมเป็นส่วนหนึ่งเทศกาลสงกรานต์ปลอดภัยลดเสี่ยงเลี่ยงโควิด 19 และ ร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” เน้นมาตรการ “ไม่เมา สวมหมวก ใส่แมสก์”
สำหรับกลุ่มเสี่ยงสามารถรับชุดตรวจ ATK ฟรี 3 ชุด ต่อเดือน
โดยหลักเกณฑ์การรับชุดตรวจ ATK นั้น ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถรับชุดตรวจ ATK ฟรี ในครั้งแรก 2 ชุด ขอย้ำว่าให้นำชุดตรวจ ATK ที่ได้รับมาตรวจหาเชื้อทันที เพราะท่านเป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมให้บันทึกผลการตรวจในระบบ ซึ่งไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขอรับชุดตรวจ ATK ในครั้งต่อไปได้ โดยกรณีที่ท่านจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19 ซ้ำสามารถขอรับชุดตรวจ ATK เพิ่มเติมได้โดยเว้นช่วงระยะเวลาห่างกัน 14 วัน สามารถรับเพิ่มได้ 1 ชุด (สามารถติดต่อรับชุดตรวจATKได้เดือนละไม่เกิน 3 ชุด/ท่าน)
กรณีตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด ได้ผลบวกว่าติดเชื้อโควิด 19 แนะนำดังนี้
1. เพื่อความรวดเร็ว ให้ติดต่อพื้นที่ ถ้าอยู่ กทม.ให้โทรสายด่วนประจำแต่ละเขต (https://main.bangkok.go.th/) และเฟสบุ๊กกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ (https://www.facebook.com/prbangkok) รวมถึงเพิ่มเพื่อนทาง Line @BKKCOVID19CONNECT หรือคลิก https://bit.ly/3Iuw7Si ได้เช่นกัน หรือ 1669 กด 2 ถ้าอยู่ต่างจังหวัด โทร. สายด่วนประจำจังหวัดหรืออำเภอ
2. หากติดขัดประการใด ให้โทรสายด่วน สปสช. 1330 โดยสปสช.จัดเตรียมระบบสายด่วน สปสช. 1330 รองรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดที่อาจจะเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ ดังนี้
– สายด่วน 1330 กด 18 ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาโดยเฉพาะ ทั้งกลุ่ม 608, เด็ก 0-5 ปี, คนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง สปสช.จะลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ให้ก่อน พร้อมประสานหาเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล
– สายด่วน 1330 กด 14 ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทุกสิทธิการรักษาที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงนั้น เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำการรักษาตามอาการ กรณีเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว รักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านหรือเจอ แจก จบ หรือจะเข้าระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่ง สปสช. จะลงทะเบียนให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มนี้ และจับคู่กับสถานพยาบาลเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป
หมายเหตุ :
- กรณี โทร.สายด่วนไม่ติดเนื่องจากอาจมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ให้ลงทะเบียนด้วยตนเองที่เว็บไซต์ สปสช. https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือทางไลน์ สปสช. @nhso https://lin.ee/zzn3pU6 ได้เช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม.
- หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso
ที่มา : https://bit.ly/3LTTeaj