เทศกาลสงกรานต์ ปี 2565

สงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย

ประกาศสงกรานต์
จุลศักราช 1384 พุทธศักราช 2565
ปีขาล จัตวาศก จันทรคติเป็น ปกติมาส ปกติวาร สุริยคติเป็น ปกติสุรทิน

 

วันมหาสงกรานต์ ปีจุลศักราช 1384 พุทธศักราช 2565

  • ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน เวลา 9 นาฬิกา 52 นาที 12 วินาที
    จันทรคติ ตรงกับ วันพฤหัสบดี ขึ้น 13 ค่ำ เดือนห้า (5) ปีขาล

นางสงกรานต์

  • นามว่า นางกิริณีเทวี หรือ นางกาฬกิณีเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จยืน มาเหนือหลังกุญชร (ช้าง) เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์

  • เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ อาทิตย์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 400 ห่า ตกในเขาจักรวาล 160 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 120 ห่า ตกในมหาสมุทร 80 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 40 ห่า

เกณฑ์ธาราธิคุณ

  • ตกราศีธนู ชื่อ เตโช(ธาตุไฟ) น้ำน้อย อากาศยังร้อน

เกณฑ์นาคราชให้น้ำ

  • เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีนี้ นาคราชให้น้ำ 4 ตัว ทำนายว่า ฝนดีตลอดปี

เกณฑ์ธัญญาหาร

  • เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ มีด้วงแมลงรบกวน ข้าวกล้า จะได้ผล 1 ส่วน เสีย 5 ส่วน บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราชจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมากแลฯ

วันเถลิงศกจุลศักราช 1384

  • วันเถลิงศก ตรงกับ วันเสาร์ที่ 16 เมษายน เวลา 13 นาฬิกา 49 นาที 48 วินาที จันทรคติ ตรงกับ วันพฤหัสบดี ขึ้น 13 ค่ำ เดือนห้า (5) ปีขาล

ที่มา : https://www.myhora.com/ปฏิทิน/ประกาศสงกรานต์-พ.ศ.2565.aspx

นางสงกรานต์ปี 2565 : นางกิริณีเทวี หรือ นางกาฬกิณีเทวี
(ภาพจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม)

เป็นนางสงกรานต์ประจำวันวันพฤหัสบดี

ทรงพาหุรัด ทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา
พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จยืน มาเหนือหลังกุญชร (ช้าง) เป็นพาหนะ

การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์

ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียม มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง 

  • มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ – พัทยา
  • มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน – บางพลี และตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน
  • ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 12 เมษายน 2565 ถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2565 เป็นเวลา 7 วัน

เปิดใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ชั่วคราวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565

  • ช่วงปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร
  • ขาออกกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 11 – 14 เมษายน 2565 เวลา 06.00 – 24.00 น. เป็นเวลา 4 วัน
  • ขาเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 15 – 18 เมษายน 2565 เวลา 06.00 – 24.00 น. เป็นเวลา 4 วัน

ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 

  • ตั้งแต่วันอังคารที่ 12 เมษายน 2565 เวลา 00.01 น. ถึงวันจันทร์ที่ 18 เมษายน 2565 เวลา 24.00 น. รวม 7 วัน
    • ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) จำนวน 20 ด่าน
    • ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 21 ด่าน
  • ตั้งแต่วันพุธที่ 13 เมษายน 2565 เวลา 00.01 น. ถึงวันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2565 เวลา 24.00 น. รวม 3 วัน
    • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 19 ด่าน
    • ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน
    • ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน

รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทอง และบีอาร์ที

  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ฟรีตลอดสาย ทุกสถานี
    รวมส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และสายสีลม รถไฟฟ้าสายสีทอง และรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที
  • ระหว่างวันที่ 13 – 15 เม.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น.
  • เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชนแก่พนักงานสถานี เพื่อขอรับบัตรโดยสารเดินทางฟรี ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วในทุกสถานี

รถไฟฟ้า MRT

  • ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ให้แก่ผู้โดยสารที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2565 ตลอดระยะเวลาเปิดให้บริการ
  • โดยแสดงตัวที่ห้องออกบัตรโดยสารพร้อมบัตรประชาชน เพื่อรับคูปอง 1 ใบ (1 คนต่อคูปอง 1 ใบเท่านั้น) สำหรับผ่านเข้า – ออกประตูพิเศษ (Swing Gate) เพื่อเข้าระบบต่อไป

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ฟรี
  • วันที่ 13 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 05.30 – 24.00 น.
  • เพียงผู้สูงอายุแสดงบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่บริเวณห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร

ขสมก.

  • จัดเดินรถให้บริการฟรี “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน 2565” สำหรับผู้ใช้บริการที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป โดยผู้สูงอายุจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนต่อพนักงานเก็บค่าโดยสาร เพื่อใช้สิทธิ์บริการฟรีทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ

แนะนำเส้นทางเลือกจากกรุงเทพฯสู่ภูมิภาคต่าง ๆ

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไปรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.พระนครศรีอยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณบุรี) –จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณบุรี – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้า สู่จังหวัดนครสวรรค์
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป รังสิต – อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก
  • เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไปรังสิต – ต่างระดับคลองหลวง (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – เชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 3214) – ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข32 เข้าสู่ภาคเหนือ
  • เส้นทางที่5 จากกรุงเทพฯไปวงแหวนตะวันออก (ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) – ต่างระดับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) – อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ถนนโรจนะ (ทางหลวงหมายเลข 309) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 เข้าสู่ภาคเหนือ

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ต.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี – อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา หรือจากอ.บ้านนาไร่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าสู่อ.กบินทร์บุรีสู่อ.อรัญประเทศ
  • เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314 หรือ ทางหลวงหมายเลข 304) –
    อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.ชลบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สาย กรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา)
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา-ตราด) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป อ.พนัสนิคม – จ.ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 304)

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สมุทรสาคร – จ.สมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 35) – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.สามพราน – อ.นครชัยศรี – จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) – อ.นครชัยศรี –จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังเตรียมเส้นทางเลี่ยงสำหรับการเลี่ยงใช้ ทล.35 หรือ ถนนพระราม2 โดยให้ใช้ ถนนเพชรเกษม เข้าถนนเศรษฐกิจแล้วเข้าสู่ถนนพระราม 2 ที่ทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร หรือจากถนนกาญจนาภิเษก ใช้ถนนเอกชัย – บางบอน เข้าถนนพระราม 2 ที่กม. 21 (บริเวณมหาชัยเมืองใหม่) หรือ ใช้ถนนเพชรเกษม ผ่านอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อเข้าสู่จังหวัดภาคใต้ต่อไป

7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565

บทความที่เกี่ยวข้อง

การอำนวยความสะดวก/การเดินทาง

การปิด/เปิดการให้บริการช่วงสงกรานต์

การป้องกันโรคโควิด 19 ช่วงสงกรานต์