กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศจีนอย่างใกล้ชิด
กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศจีนอย่างใกล้ชิด แนะนำประชาชนในการบริโภคเนื้อไก่และไข่ ควรปรุงสุก หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกป่วย ตาย ห้ามนำซากสัตว์ปีกที่ป่วยตายไปกิน หรือให้สัตว์อื่นกิน หากพบเห็นสัตว์ปีกป่วย ตาย ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีข่าวประเทศจีนพบเด็กชาย วัย 4 ปี ติดเชื้อไข้หวัดนก สายพันธุ์ H3N8 เมื่อวานที่ผ่านมา (28 เม.ย. 65) ว่า ได้มอบให้กองโรคติดต่อทั่วไปตรวจสอบและติดตามสถานการณ์เรื่องนี้แล้ว โดยพบว่า บ้านผู้ป่วยได้เลี้ยงไก่ นกอีกา และมีเป็ดป่าอยู่รอบๆ บ้าน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนได้ดำเนินการสังเกตอาการและสุ่มตัวอย่างจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ไม่พบความผิดปกติใดๆ
โรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H3N8 เคยมีการตรวจพบเชื้อในม้า สุนัข นก และแมวน้ำ จากทั่วโลก แต่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยในมนุษย์มาก่อน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติประเมินเบื้องต้นระบุว่า เชื้อดังกล่าวมีความสามารถในการแพร่เชื้อสู่มนุษย์และความเสี่ยงแพร่ระบาดในวงกว้างอยู่ในระดับต่ำ
สำหรับผู้ป่วยเด็กที่พบในประเทศจีนครั้งนี้ นับเป็นรายแรกที่มีการแพร่ระบาดจากสัตว์มาสู่คน สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในคนทั่วโลก ตั้งแต่เดือนมกราคม 2546 – 13 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ใน 18 ประเทศ รวม 863 ราย เสียชีวิต 455 ราย คิดเป็นร้อยละ 53 ได้รับรายงานพบผู้ติดเชื้อรายสุดท้าย เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 จากประเทศอินเดีย
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศไทย ข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค มีรายงานผู้ติดเชื้อระหว่างปี 2547-2549 พบผู้ป่วย 25 ราย เสียชีวิต 17 ราย และไม่มีรายงานพบผู้ป่วยไข้หวัดนกในไทยหลังจากปี 2549 จนถึงปัจจุบัน และในปีนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 เม.ย. 65) ข้อมูลจากโปรแกรมตรวจสอบการระบาด ของกองระบาดวิทยา ไม่มีรายงานผู้ป่วยสงสัยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคและข้อมูลจากระบบสารสนเทศเพื่อการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ปี 2565 สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ ไม่มีรายงานสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติจากโรคไข้หวัดนก
ในการประเมินความเสี่ยงของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดได้ เนื่องจากยังคงพบการระบาดของโรคนี้ในสัตว์ในประเทศเพื่อนบ้านและมีการเคลื่อนย้ายเข้าสู่ประเทศ จึงมีโอกาสที่จะแพร่ระบาดมาสู่สัตว์ปีกที่มีการเลี้ยงในบริเวณพื้นที่จังหวัดชายแดน ขอแนะนำประชาชนในการบริโภคเนื้อไก่และไข่ ควรปรุงสุก หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกป่วย ตาย ห้ามนำซากสัตว์ปีกที่ป่วยตายไปกิน หรือให้สัตว์อื่นกิน พบเห็นสัตว์ปีกป่วย ตาย ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ปีก รวมทั้งนกในธรรมชาติ หรือหากมีอาการเป็นไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และเคยสัมผัสสัตว์ปีก ให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติสัมผัสโรค หรือแจ้งประวัติการเดินทาง
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220429205936214
