การช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
ลูกหนี้ธุรกิจ
- พักชำระหนี้เงินต้นตามระดับผลกระทบ ทั้งนี้ไม่เกิน 12 เดือน
- ขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้สอดคล้องกับธุรกิจ
- สำหรับลูกค้ารายที่ใช้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อเดิม สามารถขยายระยะเวลาค้ำประกันออกไปได้อีก 5 ปี โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ และเป็นไปตามเกณฑ์ของ บสย.
โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19)
- ให้สินเชื่อเพิ่มวงเงินสูงสุด 50,000 บาท ผ่อนชำระคืนสูงสุด 5 ปี และปลอดชำระหนี้ 6 งวดแรก แก่ผู้ประกอบการ ผู้มีอาชีพอิสระ พนักงานลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม ยื่นคำขอได้ภายใน 30 กันยายน 2563
- ลดดอกเบี้ยให้สูงสุด 20% ของดอกเบี้ยจ่าย ระยะเวลา 1 ปี พักเงินต้นไม่เกิน 2 ปี และขยายเวลาชำระหนี้ ยื่นคำขอได้ภายใน 31 ธันวาคม 2563
มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
- โดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยวรวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม
- พักชำระหนี้เงินต้นและชำระเฉพาะกำไรนานสูงสุด 12 เดือน (ทั้งนี้ ไม่เกินเดือนธันวาคม 2563)
- ยื่นคำขอไม่เกินวันที่ 30 เมษายน 2563 ณ สาขาของธนาคารทั่วประเทศ
- มาตรการช่วยเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง
- เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง ขยายเวลาชำระหนี้เดิมออกไป 2 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 – 31 ธันวาคม 2564
- โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง
ปี 2563 วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท เกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งสามารถกู้
เพื่อลงทุนได้รายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 0%
ส่วนปีที่ 3 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR-2% (ปัจจุบัน MRR= 6.875%)
กำหนดชำระคืนไม่เกิน 10 ปี สนับสนุนสินเชื่อตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 ธันวาคม 2563
- มาตราการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
- ครอบคลุมลูกหนี้เกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการและสถาบัน
- ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ไม่เกิน 20 ปี ปลอดเงินต้นไม่เกิน 3 ปีแรก
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ให้สินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือค่าใช้จ่ายประกอบอาชีพ
- มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
- กรณีอยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยตามโปรโมชั่น ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน (รายละเอียด 1)
- กรณีพ้นระยะการใช้อัตราดอกเบี้ยตามโปรโมชั่น ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน แบ่งเป็น
- กลุ่มลูกค้ารายย่อย/สวัสดิการ ใช้อัตราดอกเบี้ย MRR-1.25% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- กลุ่มลูกค้าแฟลต ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR-1.25% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
- ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน โดยลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.00% ต่อปี
- ระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน
- มาตรการลดภาระผู้ส่งออกไทย สู้ภัยไวรัสโคโรนา
- ด้านสินเชื่อ
- พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน รวมทั้งขยายระยะเวลาให้ต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงิน (รวมอายุตั๋วเดิมไม่เกิน 360 วัน)
- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดได้สูงสุด 5 ปี สำหรับลูกค้าที่มีการค้ำประกันสินเชื่อโดย บสย. PGS ระยะที่ 5-7 โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม
- ระยะเวลาให้บริการ 4 กุมภาพันธ์ – 31 ธันวาคม 2563
- ด้านรับประกันการส่งออก
- ขยายเทอมการชำระเงินที่ให้ความคุ้มครองสำหรับลูกค้าประกันการส่งออก ที่มีการส่งออกไปยังผู้ซื้อในประเทศจีน โดยไม่คิดค่าเบี้ยประกันเพิ่ม กรณีขยายเทอมไม่เกิน 180 วัน (หากขยายเกิน 180 วันแต่ไม่เกิน 270 วัน จะเรียกเก็บเบี้ยประกันเพียง 50%)
- เพิ่มความคุ้มครองให้กับการส่งออกสินค้าเน่าเสียง่ายในกรณีที่ผู้ซื้อในประเทศจีนไม่รับมอบสินค้าเป็นกรณีพิเศษ ในอัตรา 50% ของมูลค่าใบกำกับสินค้า ทั้งนี้ต้องไม่เกินวงเงินรับประกัน
- ลดระยะเวลาการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทน
- ระยะเวลาให้บริการ 4 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2563
- ด้านสินเชื่อ
- มาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- ด้านสินเชื่อ
- วงเงินกู้ระยะยาวเพื่อซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ หรือเพื่อต่อเติมปรับปรุงโรงงาน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย
- ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี หลักประกันขั้นต่ำ 40%
- สำหรับกลุ่มลูกค้า SMEs ใช้ บสย. ค้ำประกันได้ (โครงการ PGS 8) อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 2.00% ระยะเวลาให้บริการ 31 มกราคม – 31 ธันวาคม 2563
- ด้านสินเชื่อ
มาตรการด่วนช่วยเหลือ SMEs ไทยจากผลกระทบไวรัสโคโรนา
- พักชำระหนี้เงินต้นเฉพาะบัญชีสินเชื่อระยะยาวสูงสุด 12 เดือน และให้ลูกหนี้ชำระเฉพาะดอกเบี้ย
- ขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ธุรกิจ และขยายระยะเวลาค้ำประกันสำหรับลูกหนี้ที่มี บสย. ค้ำประกันโครงการ PGS5 – PGS7 ออกไปอีก 5 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
- ให้สินเชื่อใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่องคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นิติบุคคล 3% ต่อปี ใน 3 ปีแรก วงเงิน 1.0 ลบ. ต่อราย และบุคคลธรรมดา 5 % ต่อปีใน 3ปีแรก วงเงิน 0.5 ลบ. ต่อราย ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 7 ปี
- มาตรการพักชำระค่าธรรมเนียมธุรกิจท่องเที่ยว
- การค้ำประกันสินเชื่อเป็นระยะเวลา 12 เดือน
- สำหรับลูกค้า SMEs เดิม ของ บสย. ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ได้แก่ ธุรกิจบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นลูกค้า บสย. ที่ถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2563
- มาตรการขยายระยะเวลาการค้ำประกันโครงการค้ำประกัน PGS 5-7
- ขยายระยะเวลาการค้ำประกันนานสูงสุด 5 ปี
- ไม่คิดค่าธรรมเนียมในช่วงเวลาต่อขยาย
- มาตรการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย”
- สำหรับลูกค้า SMEs ที่ต้องการสินเชือ่ใหม่และได้รับการผ่อนปรับเงื่อนไขชำระหนี้
- ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปี
- วงเงินค้ำประกันสูงสุด 30 ลบ.ต่อราย
- สินเชื่อใหม่ได้รับการค้ำประกันความเสียหาย เพิ่มขึ้นเป็น 40% ของสถาบันการเงิน
- มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า (โควิด-19)
- มาตรการที่ 1 : ปรับลดดอกเบี้ยเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่มีนาคม – สิงหาคม 2563
- มาตรการที่ 2 : ปรับลดค่างวดร้อยละ 50 ของค่างวดที่กำหนดไว้เดิม เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่มีนาคม – สิงหาคม 2563
- มาตรการที่ 3 : พักชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่มีนาคม – สิงหาคม 2563
- ยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
Post Views: 836