ข่าวสารกิจกรรม, ข่าวไวรัสโควิด-19
นายกรัฐมนตรี ชื่นชมนักวิจัยไทยพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์รับมือโควิด 19 ลดการนำเข้า
นายกรัฐมนตรี ชื่นชมนักวิจัยไทยพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์รับมือโควิด 19 ลดการนำเข้า เสริมศักยภาพประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค
นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ติดตามผลงานการคิดค้นผลงานของคนไทยอย่างใกล้ชิด โดยแสดงความชื่นชมต่อนักวิจัยที่ได้พัฒนาผลงานนวัตกรรมด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ การวินิจฉัยและการดูแลรักษา ทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการรับมือโควิด 19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดสรรงบระมาณสนับสนุนในภาพรวม 3 พันกว่าล้านบาท โดยมีผลงาน อาทิ เครื่องช่วยหายใจอัตราไหลสูง (High Flow Nasal Cannula – HFNC ) มีต้นทุนการผลิตเครื่องละประมาณ 50,000 บาท ในขณะที่หากนำเข้า ราคาเครื่องละ 200,000 – 250,000 บาท จึงทำให้ประเทศลดการนำเข้าได้สูงถึง 150,000 บาท ต่อ 1 เครื่อง ปัจจุบัน มีการส่งมอบให้โรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 500 เครื่อง, ชุดตรวจโควิดด้วยวิธีแลมป์เปลี่ยนสี (RT-LAMP)นำไปติดตั้งใช้งานที่ด่านคัดกรองโรคที่สนามบินและโรงพยาบาลต่าง ๆ มีการส่งมอบให้หน่วยงานภาครัฐและจัดจำหน่ายไปแล้วกว่า 260,000 ชุด มูลค่าประมาณ 65 ล้านบาท, ชุดตรวจ “COVITECT-1” ด้วย Real-Time RT PCR ผ่านมาตรฐานสากล มีการส่งมอบชุดตรวจให้ภาครัฐมากกว่า 500,000 ชุด และส่งมอบให้กับประเทศสมาชิกในอาเซียนจำนวน 80,000 ชุด, หลอดเก็บเลือดอินโนเมด ถูกออกแบบการใช้งานทดแทนการใช้หลอดเก็บเลือดจาก 2 หลอด เหมาะกับผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องเจาะเลือดบ่อย ๆ และผู้ป่วยโรคติดเชื้อ หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ผลิตขึ้นเองนี้จะช่วยลดการนำเข้าหลอดเก็บเลือดในแต่ละปี คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 2,700 ล้านบาท
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้หารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาปรับแผนบริหารจัดการ เพื่อนำไปสู่การสนับสนุนการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ การวินิจฉัยและการดูแลรักษา เพื่อยกระดับประเทศไทยให้มีความพร้อมในการรับมือโควิด 19 และกว่า 2 ปีที่ผ่านมาของการทำงานอย่างทุ่มเทของนักวิจัยไทย ได้สร้างนวัตกรรมด้านการแพทย์มากมาย เป็นเครื่องยืนยันของความสามารถคนไทย และความพร้อมต่อการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาค
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220627093118691