กทม.เชิญชวนประชาชนในพื้นที่กทม. ใช้ระบบ BKKCOVID 19 ประเมินความเสี่ยงโควิด -19

            กทม.เชิญชวนประชาชนในพื้นที่ กทม. ใช้ระบบ BKKCOVID 19 ประเมินความเสี่ยงคลายข้อสงสัยในเรื่องการติดเชื้อโควิด -19 พร้อมประกาศงดจําหน่ายสุราทุกร้าน เริ่มวันที่ 10 – 20 เมษายน 2563

            วันนี้ (9 เม.ย. 2563) เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) โถงกลาง  ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ร้องตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกรุงเทพฯ โดยมีประเด็นชี้แจง 3 ประเด็น  ได้แก่

            เรื่องที่ 1 ระบบ BKKCOVID 19  ซึ่งปัจจุบันเนื่องจากการแพร่กระจายของโรคโควิด -19 ทำให้หลายคนมีคำถามและข้อสงสัยว่าตนเอง หรือเพื่อน หรือคนในครอบครัวฉัน จะติดเชื้อไหม  และเมื่อติดแล้วควรทำตัวอย่างไร และใครจะมาช่วยเหลือ กรุงเทพฯ จึงได้ทำระบบ BKKCOVID 19  ขึ้นมา เพื่อทำการประเมินความเสี่ยงของประชาชนที่มีความสงสัยดังกล่าว โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://bkkcovid19 bangkok.go.th หรือคิวอาร์โค้ด BKKCOVID 19  เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์จะพบกับแบบประเมิน 2 แบบ  คือ แบบที่ 1 การประเมินความเสี่ยง และแบบที่ 2 การประเมินอาการ โดยแบบประเมินนี้ออกแบบโดยแพทย์ และนักวิชาการ ในการที่จะทำแบบประเมินความเสี่ยงและหรับคนที่มีโอกาสที่ติดเชื้อโรควิด-19  ซึ่งมีใช้อยู่ที่โรงพยาบาลด้วย ทั้งนี้เมื่อกรอกแบบประเมินเรียบร้อยแล้วระบบก็จะจัดออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ  จากนั้นระบบก็จะให้ความรู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีวิธีการที่จะต้องปฏิบัติตัวที่แตกต่างกัน แต่หากท่านเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง ระบบก็จัดเจ้าหน้าที่โทรไปสอบถามยืนยัน และให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว หลังจากนั้นก็จะขอข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำการติดต่อ ทำการช่วยเหลือ สำหรับคนที่ประเมินแล้วพบมีความเสี่ยงและต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างทันที ระบบจะจัดคนจัดและรถพยาบาลไปรับจากที่บ้านมาสู่โรงพยาบาลโดยทันที แต่หากพบว่าท่านยังเป็นคนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการตรวจเชื้อ ระบบจะจัดรถเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่บริเวณใกล้ ๆ และทำการนัดหมายมาทำการตรวจหาเชื้อ ซึ่งระบบนี้จะเป็นระบบที่จะทำให้ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มรูปแบบทั้งระบบ ยืนยันข้อมูลทั้งหมดที่ระบบนี้ทำจะเป็นข้อมูล Open Beta หรือว่าข้อมูลเปิดเผยที่ทุกคนสามารถมาตรวจสอบได้แล้ว และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องออกนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์โควิด -19 ต่อไป

            อย่างไรก็ตามระบบนี้จะเริ่มต้นทำงานอย่างเต็มรูปแบบสำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯก่อน แต่สำหรับคนที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ยังสามารถใช้ระบบนี้ได้โดยการประเมินความเสี่ยง รับทราบวิธีการปฏิบัติตัว ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดและย้ำว่าข้อมูลส่วนตัวของทุกคนจะไม่ถูกเปิดเผยจะมีการเก็บเป็นความลับ และใช้ทางการแพทย์เท่านั้น พร้อมขอเชิญชวนให้ประชาชนมาใช้บริการระบบนี้ได้ทางเว็บไซต์ http://bkkcovid19 bangkok.go.th หรือคิวอาร์โค้ด BKKCOVID 19  เพียงแค่เข้ามาใช้บริการก็จะไปช่วยเหลือถึงบ้าน

           เรื่องที่ 2 คือ ผลการประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อประจำกรุงเทพฯ ซึ่งที่ประชุมได้มีพูดคุยถึงมาตรการหลัก 2 เรื่อง ได้แก่

1. เรื่องการปรับเวลาการเปิด – การปิดของร้านสะดวกซื้อ Supermarket ร้านอาหาร หรือร้านเครื่องดื่ม ที่รวมถึงคูหา รถเข็น และแผงลอย ซึ่งเรื่องดังกล่าวกทม. ได้มีการออกประกาศฉบับที่ 5 ไปในเรื่องของการให้มีช่วงเวลาที่เปิดตั้งแต่ 05.01 นาที จนถึงเที่ยงคืน แต่เนื่องจากมีการประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 2 ของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ได้มีการออกประกาศเคอร์ฟิวส์ ดังนั้นในสิ่งที่ กมท. ได้ปิดไปก็จะปรับให้สอดคล้องกับสิ่งที่ได้มีการประกาศเคอร์ฟิว โดยทั้งหมดจะปรับให้มีการปิดในช่วงเวลาเดียว คือ 4 ทุ่ม หรือ 22.00 น. จนถึงตี 4 หรือ 04.00 น.

2. คณะกรรมการโรคติดต่อประจำกรุงเทพฯ ได้มีมติเรื่องของสงกรานต์ ซึ่งในช่วงเวลาสงกรานต์มีสิ่งที่อันตรายคือการที่จะมีการรวมตัวกันของคน โดยเฉพาะการที่จะเลี้ยงฉลองสังสรรค์ รวมถึงการซื้อสุรา ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อฯ จึงได้มีการพิจารณาเรื่องนี้ประกอบกับสถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆวัน และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ Super spreader ในช่วงสงกรานต์ซึ่งจะทำให้ต้องมานับหนึ่งใหม่ทั้งหมด คณะกรรมการโรคติดต่อฯ จึงได้มีการออกคำสั่งในวันนี้ ให้มีการงดขายสุรา คือ ให้ร้านค้า หรือสถานประกอบการขายสุราประเภทที่ 1 และ ประเภทที่ 2 ที่ได้รับการอนุญาตให้จำหน่ายสุราตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ให้งดจำหน่ายสุรา โดยคำว่า “สุรา” ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 คือ ขายปลีก และขายส่ง แต่ใจความสำคัญของประกาศนี้ คือต้องการให้งดจําหน่ายสุรา โดยไม่ให้มีการจำหน่ายสุราทุกร้าน  เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 20 เมษายน 2563 จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนได้เข้าใจและให้ความร่วมมือด้วย เพราะขณะนี้เรามาได้ไกลแล้ วอีกนิดเดียวจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดี

3. คือการขออนุญาตออกนอกเคหสถานในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงเวลาเคอร์ฟิว  ซึ่งปัจจุบันมีหลายคนที่มีความจำเป็นจะต้องออก และมีการประกอบอาชีพตามที่ได้มีการยกเว้นตามประกาศฉบับที่ 2 ซึ่งในการขอแบบฟอร์มเพื่อขออนุญาตนั้น ในส่วนของกรุงเทพฯ ได้มีการให้สแกนคิวอาร์โค้ด BKKCOVID 19   สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานรัฐ และเอกชน ที่เป็นอาชีพได้รับการยกเว้นสามารถใช้แบบฟอร์มนี้ในการที่จะขออนุญาตและรับรองตนเองในการที่จะต้องออกนอกเคหสถานหลัง 4 ทุ่ม จนถึงช่วงเวลาตี 5 ได้ แต่ส่วนที่เป็นอื่นๆ ก็จะมีการทำแบบฟอร์มให้เช่นกันซึ่งแบบฟอร์มนี้จะเป็นการขออนุญาตทางตำรวจ ในการการออกนอกเคหสถาน ซึ่งทางตำรวจจะอธิบายครั้งว่าจะต้องขออนุญาตกับใคร

         ทั้งนี้ โฆษก กทม. ย้ำว่าอยากให้ประชาชนได้ทราบและใช้แบบฟอร์มดังกล่าว เพื่อที่จะได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ถูกวิธี และมีใจความสำคัญครบทั้งหมด

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/28719