รัฐบาล เตือนช่วงหน้าฝนระวัง เสี่ยงป่วยจากยุงลาย แนะป้องกัน 3 โรค ไข้เลือดออก-ไข้ซิกา-ไข้ปวดข้อ

รัฐบาล เตือนช่วงหน้าฝนระวัง เสี่ยงป่วยจากยุงลาย แนะป้องกัน 3 โรค ไข้เลือดออก-ไข้ซิกา-ไข้ปวดข้อ

             รัฐบาล เตือนช่วงหน้าฝนระวัง เสี่ยงป่วยจากยุงลาย แนะป้องกัน 3 โรค ไข้เลือดออก-ไข้ซิกา-ไข้ปวดข้อ โดยในช่วงฤดูฝนนี้ประเทศไทยหลายพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องและเกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกและโรคอื่นๆ เช่น โรคไข้ซิกา โรคไข้ปวดข้อยุงลาย

             กรมควบคุมโรค จึงแนะนำให้ดำเนินมาตรการเร่งรัดการควบคุมการระบาดโรคไข้เลือดออก สนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ และขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วยการป้องกันการเกิดของยุงลาย โดยปฏิบัติตามมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ,ป้องกันยุงกัด เช่น การทายากันยุง ,และป้องกันการเสียชีวิต



             นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝนนี้ประเทศไทยหลายพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องและเกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกและโรคอื่นๆ เช่น โรคไข้ซิกา โรคไข้ปวดข้อยุงลาย

             รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนอาจเจ็บป่วยจากยุงลาย เนื่องจากปีนี้มีการผ่อนคลายมาตรการของโรคโควิด19 ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางและไปทำกิจกรรมในสถานที่สาธารณะได้มากขึ้น ซึ่งสถานที่สาธารณะอาจมีภาชนะที่มีน้ำขังและมีลูกน้ำยุงลาย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก และโรคอื่นๆ

             กรมควบคุมโรค แนะนำให้ดำเนินมาตรการเร่งรัดการควบคุมการระบาดโรคไข้เลือดออก โดยขอความร่วมมือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งดำเนินการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ผ่านกลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ และขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วยการป้องกันการเกิดของยุงลาย โดยปฏิบัติตามมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ,ป้องกันยุงกัด เช่น การทายากันยุง ,และป้องกันการเสียชีวิต

             หากประชาชนมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกันหลายโรค ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก และโรคโควิด-19 จึงขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย เลือกรับประทานยาแก้ไข้พาราเซตามอล 1-2 วัน หากรับประทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการวินิจฉัยแยกโรคให้ชัดเจน และรับการรักษาต่อไป สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422



ที่มา : https://bit.ly/3cODmdu